ไปเที่ยว วัดสามพระยา กัน! เบื่อแล้วเมืองกรุง อยากไปเที่ยวที่ที่สงบบ้าง แต่จะให้ออกจากกรุงเทพฯ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ดูเหมือนว่าเวลาจะไม่พอ งั้นแอดมินขอแนะนำย่านบางขุนพรหมเลยเจ้าค่ะ นอกจากจะสงบแล้ว ยังเป็นแหล่งชุมชนที่มีบ้านเก่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับใครที่ชอบความวินเทจ น่าจะชอบอะไรแบบนี้ อีกทั้งย่านนี้ยังอยู่ใกล้กับย่านพระนคร ซึ่งจะมีพระบรมมหาราชวัง สถานที่ราชการ และแหล่งค้าขายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วังบางขุนพรหม หรือบ้านของจอมพลฯ ประพาส จารุเสถียร
สำหรับใครที่มีแผนว่าจะไปเที่ยวย่านบางขุนพรหม ขอแนะนำ วัดสามพระยา เลยค่ะ ใครที่ไปถึงย่านบางขุนพรหมแล้วไม่ได้ไปวัดสามพระยา ก็ถือว่าไม่ได้ไปถึงย่านจริงๆ นะคะ วัดแห่งนี้มีประวัติที่เก่าแก่และอยู่คู่กับย่านนี้มาเป็นเวลายาวนาน ในทุกๆ เทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา จะมีผู้คนเข้ามากราบไหว้ที่วัดกันอย่างหนาแน่นมากกว่าปกติ และตัววัดยังมีไฮไลท์เด็ดๆ อีกมากมาย แต่จะเป็นอะไรนั้น ก็ต้องไปดูกันเลย
สารบัญ
Toggleประวัติ วัดสามพระยา
วัดสามพระยา ได้ทำการสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยหลวงวิสุทธิโยธามาตย์ (ตรุษ) ขุนนางเชื้อสายมอญและญาติ ผู้ได้อุทิศที่ดินพร้อมบ้านเรือนของขุนพรหม (สารท) ผู้เป็นน้องชายซึ่งเป็นนายช่างร่วมควบคุมการก่อสร้างพระมณฑปพระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี ตามพระบรมราชโองการของรัชกาลที่ 1 และได้เสียชีวิตลง จึงทำการถวายเป็นวัดขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ขุนพรหม (สารท) แล้วตั้งนามว่า “วัดบางขุนพรหม”
ในสมัยรัชกาลที่ 3 วัดบางขุนพรหมได้เริ่มเกิดการชำรุดทรุดโทรมลง ทำให้ พระยาราชสุภาวดี (ขุนทอง) พระยาราชนิกุล (ทองคำ) และ พระยาเทพวรชุน (ทองห่อ) ซึ่งเป็นบุตรของนางพวา น้องสาวคนสุดท้องของหลวงวิสุทธิโยธามาตย์ (ตรุษ) และขุนพรหม (สารท) ได้ร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดจนสำเร็จแล้วน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามว่า “วัดสามพระยา” และได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงเมื่อปีพุทธศักราช 2366
สถานที่สำคัญ วัดสามพระยา
มาเริ่มต้นกันที่ไฮไลท์เด็ดทั้งสองของเรากันก่อนเลยดีกว่า เริ่มกันด้วย หลวงพ่อพระพุทธเกสร ประดิษฐานภายในพระอุโบสถของวัดสามพระ หล่อขึ้นด้วยเนื้อโลหะพิเศษลงรักปิดทอง ประทับบนรัตนบัลลังก์ ปางมารวิชัย ซึ่งหมายความว่า “ชนะสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ให้มลายหายไป”
หลวงพ่อพระพุทธเกสร มีความเลื่องลือเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ ในแต่ละวันจะมีผู้คนเป็นจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศเข้ามากราบไหว้ขอพรไม่ขาดสาย เชื่อกันว่า หากได้เข้าไปกราบไหว้แล้ว จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาในชีวิต มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เป็นที่รักของทั้งมนุษย์และเทวดา ไม่ว่าใครที่มาบนบานขอพร ก็มักจะประสบความสำเร็จตามที่ขอไว้กันทั้งนั้น
หลวงพ่อนั่ง พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 พระพุทธรูปปางนี้มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปในอิริยาบถประทับนั่งบัลลังก์ หย่อนพระบาททั้งสองทอดลงมาเหยียบบนพื้น พระพาหาทั้งสองประคองบาตร ซึ่งจะแตกต่างกับพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ที่สร้างกันโดยทั่วไป เพราะฉะนั้นชาวบ้านบ้างจึงเรียกว่า หลวงพ่ออุ้มบาตร
นอกจากนี้ พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ยังเป็นพระประจำวันของคนที่เกิดวันพุธกลางคืน เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ มีคติความเชื่อว่า หากใครได้ไปกราบไหว้ขอพรทำ ให้มีเงินมีทองใช้ มีกินมีใช้ไปตลอด
และอีกหนึ่งไฮไลท์ประจำวัดนี้ นั่นก็คือ พระนอนปางโปรดอสุรินทราหู พระพุทธรูปองค์ใหญ่ในท่านอนเท้าคาง โดย “หลวงพ่อนอน” ได้ทำการประดิษฐานอยู่ที่ศาลาพระนอน มีอิริยาบถนอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายแนบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนย (หมอน) รองรับ เมื่อมองไปที่พระพักตร์ของท่านที่มีพระโอษฐ์ยิ้มดูเปี่ยมสุข ช่วยทำให้ผู้คนที่ไปกราบไหว้ต่างก็มีความสุขตามไปด้วยเช่นกัน
พระอุโบสถ มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐปูนหลังคาลด 2 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบแบบจีน กรอบหน้าบันฝังถ้วยกระเบื้องเคลือบเป็นระยะ
พระวิหาร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคาลด2 ชั้น มุงกระเบื้อง หน้าบัน ทรงจีนลายปูนปั้นเถาไม้และนก ประดับด้วยจานประเบื้อง ซุ้มประตูหน้าต่างเหมือนของพระอุโบสถแต่ผูกลายต่างกันเล็กน้อย บานประตูหน้าต่างเขียนลายรดน้ำ มีระเบียงเป็นแท่ง
พระเจดีย์ ใช้วิธีการก่ออิฐถือปูน ทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองภายในกำแพงเขตพุทธาวา และภายนอกกำแพงด้านขวาของพระวิหารทั้ง 25 องค์
พระเจดีย์ใหญ่ รูปทรงลังกา จำนวน 2 องค์ ตั้งอยู่ที่ลานพระอุโบสถ
หอระฆัง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น หลังคาทรงจตุรมุข มีเครื่องยอดอยู่ด้านบนและมีบันไดขึ้นลง ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของพระอุโบสถ
พระปรางค์ มีลักษณะทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้ยี่สิบ 5 องค์ อยู่บริเวณรอบพระวิหาร
บทสวดคาถา “พระปางโปรดอสุรินทราหู” พระพุทธไสยาสน์ (สำหรับคนเกิดวันอังคาร)
พระปางโปรดอสุรินทราหู เป็นพระพุทธรูปที่มีอิริยบถนอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองข้างซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนย (หมอน) รองรับ บางแบบพระเขนยวางอยู่ใต้พระกัจฉะ (รักแร้) ลักษณะเดียวกับปางปรินิพพานและปางทรงพระสุบิน หรือเรียกโดยทั่วไปว่า “พระปางไสยาสน์”
เชื่อกันว่า พระปางโปรดอสุรินทราหู ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ที่เกิดในวันอังคาร เนื่องจากตามพุทธประวัติได้กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับสีหไสยาสน์ เสด็จดับขันธปรินิพพานในวันอังคาร จึงได้ถือเอา พระพุทธไสยาสน์ เป็น พระประจำวันอังคาร
นอกจากนี้คนโบราณยังมีความเชื่อว่า คนวันอังคาร เป็นคนใจร้อน จึงต้องให้นอนเสียบ้าง จะได้ใจเย็นเหมือนดังพระนอน สำหรับใครที่เกิดในวันอังคาร ควรได้ไปกราบไหว้สักการะสักครั้ง เพื่อสิริมงคลแก่ชีวิต และยังเป็นการเตือนสติให้กับบุคคลทั่วไปว่า จงตั้งตนอยู่บนความไม่ประมาท สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง แม้กระทั่งพระพุทธองค์ก็ยังไม่สามารถหนีความตายไปได้
อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของการขจัดความมัวเมาลุ่มหลง เห็นผิดเป็นชอบที่เป็นลักษณะของราหู และเชื่อกัน หากได้ขอพร จะโชคดี พ้นภัย เป็นการสะเดาะเคราะห์ ช่วยให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี
บทสวดมนต์บูชาพระประจำวันอังคาร
ยัสสานุส สะเณนาปิ
อันตังลิกเขปิ ปาณิโน
ปะติฏฐะ มะธิคัจฉันติ
ภูมิยัง วิยะ สัพพะทา
สัมพูปัททะ ชาลัมหา
ยักขะโจรา สิสัมภะวา
สะณะนา นะ จะ มุตตา นัง
ปะริตตันตัม ภะณามะเห ฯ
ให้ทำการสวดวันละ 8 จบ จะทำให้เกิดเรื่องดีๆ ขึ้นกับชีวิต
พระคาถาบูชาดวงประจำวันอังคาร
“ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง” ชื่อคาถา ฝนแสนห่า ใช้ในทาง เมตตามหานิยม สวดวันละ 8 จบ
วิธีเดินทางไป วัดสามพระยา
1.นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปจนถึงสถานีบางโพ แล้วต่อรถประจำทางหมายเลข 49 ลงป้ายรถประจำทาง แยกบางขุนพรหม 1 แล้วเดินต่อไปอีกเพียง 300 เมตรหรือ 4 นาที ก็จะถึงวัดสามพระยา
2.นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปจนถึงสถานีเตาปูน แล้วต่อรถประจำทางหมายเลข 65 สามารถไปถึงวัดสามพระยาได้เลย
3.สามารถนั่งรถเมล์ไป ได้แก่ สาย 19 ตลิ่งชัน-เทเวศน์, สาย 3 สาทร-หมอชิต 2, สาย 30 นนทบุรี-สายใต้, สาย 32 ปากเกร็ด-วัดโพธิ์(ท่าเตียน), สาย 33 ปทุมธานี-สนามหลวง, สาย 43 ศึกษานารี 2 – เทเวศน์, สาย 51 ศูนย์ราชการ-ท่าน้ำบางโพ-(สนามหลวง), สาย 524 หลักสี่-สนามหลวง, สาย 53 วงกลมรอบเมือง-เทเวศน์, สาย 64 นนทบุรี-สนามหลวง, สาย 65 วัดปากน้ำนนท์-สนามหลวง และสาย 9 ท่าน้ำภาษีเจริญ-ศรีย่าน
4.เดินทางโดยรถยนต์: จากถนนสามเสน เลี้ยวเข้าซอยสามเสน 5 จะเห็นวัดสามพระยาวรวิหาร อยู่ทางซ้ายมือ
สรุป
สำหรับใครที่มีวันหยุดว่างๆ หรืออยากออกไปทำบุญ ออกไปเที่ยวภายในตัวกรุงเทพฯ แอดมินก็ขอแนะนำ วัดสามพระยา เลยค่ะ เพราะวัดแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ หลวงพ่อพระพุทธเกสร พระนอนปางโปรดอสุรินทราหู และหลวงพ่ออุ้มบาตร เท่านั้น แต่ยังมีสถาปัตยกรรมมากมายให้ทุกท่านได้เดินชมกันได้ไม่มีวันเบื่อแน่นอน
หากใครที่มีเวลาเหลือ อยากจะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวรอบวัดสามพระยา ก็สามารถเดินทางไปได้อย่างง่ายดาย เพราะบริเวณนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย และไม่ใช่เพียงแค่สถานที่เท่านั้น ย่านนั้นยังดังในเรื่องของของกินอร่อยๆ อีกด้วย หรือจะล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ถือว่าเป็นอีกแพลนที่ไม่เลวเช่นกัน
ก่อนจากกันไป สำหรับใครที่อยากอ่านบทความดีๆ แบบนี้ ทั้งเรื่องความเชื่อ แรงศรัทธา ทำนายฝัน ดูดวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สูตรหวย สถิติหวย เลขเด็ด เราได้ทำการรวบรวม เรื่องดี เรื่องดัง เรื่องน่าสนใจ มาให้ทุกท่านไว้แล้วที่นี่ที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาหาเยอะแยะมากมาย มาพบกับพวกเราได้ในทุกวันที่ Ruay365.com ค่ะ