ปลายฝน ต้นหนาว แบบนี้ ไม่มีพลาด! ไปชมวิวทะเลหมอกจากยอดภู พร้อมกราบไหว้พระขอพรให้ปีหน้าเป็นปีที่ดีกว่าเดิมที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ณ เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เชื่อว่า เขาค้อ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในตัวเลือกของหลายๆ คนที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับฤดูกาลที่อากาศกำลังหนาวเย็นแบบนี้ สายมูเองก็ไม่มีพลาดเช่นกัน วันนี้แอดมินจะพาแฟนคลับทุกท่านไปเที่ยวชม วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดที่ตั้งอยู่บนยอดภูสูง พร้อมด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่าง พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เชื่อว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน
สารบัญ
Toggleประวัติ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ในชัยภูมิธรรม ณ บริเวณเนินเขาสูงของหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อตั้งแต่ปี พ.ศ.2547
คำว่า “ผาซ่อนแก้ว” เป็นชื่อยอดเขาที่ได้มาจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ที่มองเห็นลูกแก้วลอยลงมาจากฟ้าก่อนลับหายไปบริเวณถ้ำที่อยู่บนยอดเขา ก่อเกิดเป็นความเชื่อว่า ลูกแก้วดังกล่าวเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จลงมา ชาวบ้านจึงให้จุดนั้นเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และได้ตั้งชื่อว่า “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว”
ต่อมา “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” ได้รับการอนุญาตจัดตั้งเป็นวัด โดยใช้ชื่ออันเป็นมงคลว่า “วัดพระธาตุผาแก้ว” ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2553 จากคณะกรรมการมหาเถรสมาคม โดยครั้งนั้นมีพระครูปลัด ปารมี สุรยุทโธ เป็นเจ้าอาวาสอยู่ จนกระทั่ง วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2556 “วัดพระธาตุผาแก้ว” ได้เปลี่ยนจากชื่ออีกครั้งเป็น “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” จนถึงปัจจุบัน
พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดสร้าง “พระเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิตร“ ว่า เมื่อปี พ.ศ.2547 หลวงพ่อปารมี สุรยุทโธ (หลวงพ่อยงยุทธ) และพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส ได้ไปผาซ่อนแก้วเพื่อปฏิบัติธรรมกลางความวิเวก โดยมีเพียงกระต๊อบมุงจากเล็กๆ เป็นกุฏิ 2 หลังเท่านั้น
หลังจากนั้นญาติธรรม ก็มาช่วยกันพลิกผาซ่อนแก้วจากแล้งสู่ร่มรื่น โดยใช้เวลาเพียง 4 ปี ก็กลายเป็นพุทธสถานที่ห่มคลุมด้วยต้นไม้ และดอกไม้นานาพันธุ์ และมีที่พักปฏิบัติธรรม 44 หลัง กุฏิ 19 หลัง ศาลาอเนกประสงค์ ศาลาปฏิบัติธรรม 4 ชั้น และเจดีย์พระธาตุ 9 ชั้น
และเมื่อพิจารณาจากทำเลผาซ่อนแก้ว เห็นว่าเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมในระยะยาว ญาติธรรมรวมทั้งครูบาอาจารย์เห็นด้วย และสนับสนุนให้สร้างเจดีย์ ณ บริเวณสูงสุดของวัดขึ้นเป็นพุทธบูชาและประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สายธารแห่งศรัทธาจึงหลั่งไหลมาร่วมอุปถัมภ์ จนสามารถสร้างพระเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้วสิริราชย์ธรรมนฤมิตร ได้สำเร็จ ดังนั้น วัดแห่งนี้จึงถือนับได้ว่าเป็นวัดที่เกิดจากการเสียสละเพื่อให้เกิดความงามอย่างแท้จริง
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว กับ ไฮไลท์ไม่ควรพลาด
เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต
เมื่อเดินเข้ามาภายในตัววัด สิ่งแรกที่จะเจอก็คือ “เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว” มีรูปทรงที่วิจิตรงดงาม แสดงออกให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว รูปร่างของเจดีย์สร้างเป็นแบบดอกบัวซ้อนกัน 7 ชั้น เพื่อถวายแด่พระพุทธเจ้า ประดับด้วยกระเบื้องสี ถ้วยชามเบญจรงค์ มุก ลูกปัด แก้ว แหวน เงินทอง สิ่งมีค่าต่างๆ ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน มาประดับประดาตกแต่ง เป็นลวดลายที่สวยงาม
บนยอดเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และบริเวณใต้ฐานพระเจดีย์จะใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน, ภาพปริศนาธรรม และเป็นที่เจริญสติภาวนา สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป
ตามวัตถุประสงค์ของการสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และเป็นที่สืบพระศาสนา ให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทย เพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ และคนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้ต่อไป
มหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5 พระองค์
แลนด์มาร์คสำคัญของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นก็คือ มหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ซึ่งมหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์นี้ มีลักษระเด่นคือเป็นองค์พระพุทธรูปสีขาวเด่นเป็นสง่า เรียงกันอยู่ทั้งหมด 5 พระองค์ ท่ามกลางวิวหมอกและภูเขา ตั้งเด่นอยู่บริเวณหน้าทางเข้าวัด สามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆ
มีฐานความกว้าง 41 เมตร ยาม 72 เมตร และสูง 45 เมตร แบ่งเป็น 6 ชั้น โดยส่วนของชั้นที่ 1 และ 2 ได้จัดเป็นที่พักของผู้เข้าปฏิบัติธรรม ส่วนบริเวณอื่นๆ นั้น ใช้เป็นที่ประกอบศาสนากิจ ได้แก่ การสวดมนต์ ฟังธรรม และการปฏิบัติภาวนา
มหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5 พระองค์แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการร่วมน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหาวโรกาสเฉลิมฉลองพระชนม์มายุ 85 พรรษา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ของปวงชนชาวไทย อีกทั้งเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบต่อไปเช่นกัน
ศาลาพระหยกเขียว
ศาลาพระหยกเขียว ใช้สำหรับการปฏิบัติธรรม มีรูปทรงจัตุรัสโปร่ง รายรอบด้วยบานกระจกขนาดใหญ่ เพื่อให้สัมผัสกับธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม พร้อมทั้งมีสวนดอกไม้ ต้นไม้นานาพรรณโดยรอบ โดยมีพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส เป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง โดยได้แรงศรัทธาของช่างชาวบ้านหมู่บ้านทางแดงเป็นผู้ก่อสร้าง ซึ่งผสมผสานงานปูน งานไม้ พร้อมศิลปะลวดลายไทยที่งดงามทั้งภายนอกและภายในผสานกันได้อย่างลงตัว
พระพุทธเลิศรัตนโชติมณี (พระหยกเขียว)
พระรัตนโชติมณี หรือ “พระหยกเขียว” เป็นพระพุทธรูปหยกปางมารวิชัย เป็นศิลปะสมัยเชียงแสน มีขนาดหน้าตัก 65 นิ้ว ทั้งองค์พระถูกแกะสลักจากหยกเขียวทั้งก้อน ที่พระเศียรได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นพระสารีริกธาตุที่รับเมตตาประทาน จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณา
พระพุทธรัตนสัมฤทธิ์ผล (พระหยกขาว)
พระพุทธรัตนสัมฤทธิ์ผล หรือ “พระหยกขาว” เป็นพระพุทธรูปหยกปางขัดสมาธิเพชรสร้างตามรูปแบบศิลปะคันธาระ มีขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว พระเศียรขององค์พระบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับเมตตาประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหา สังฆปริณายก ได้ทำพิธีอัญเชิญประดิษฐาน ณ พุทธธรรมสถานผาแก้วเช่นกัน
ลานโพธิ์
ลานโพธิ์ ตั้งอยู่ ณ จุดกลางบริเวณลานวัด โดยรอบจะมีต้นศรีมหาโพธิ์ปลูกไว้ โดยได้นำกล้าโพธิ์ขนาดความสูง 3 นิ้วมาจาก พระครูธรรมศาสน์อุโมษ (พระครูในฎีกา ธงไชยวัฒน์ อิสฺสรธมฺโม) วัดท่ากระชัย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งท่านนำมาจากบริเวณรอบเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ถือเป็นต้นไม้ที่ได้ให้ร่มเงาแด่พระพุทธองค์ และได้ทรง ตรัสรู้ธรรมภายใต้ร่มโพธิ์
เสาพุทธชัยมงคล
เสาหินแกะสลักที่มีความประณีตขนาดใหญ่ มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก โดยรอบทิศทั้ง 4 ด้านนั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่พระพุทธองค์ทรงมีชัยชนะเหนือหมู่มารทั้งหลาย
ลานพระสีวลี
สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป หนึ่งในพุทธมหาสาวกของพระพุทธเจ้า อย่าง “พระสีวลี” ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดที่จะมาสักการะเลยทีเดียว
ภาพรวมของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
ใครมาที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จะต้องไม่พลาดการชมวิวรอบแบบ360 องศา โดยทางด้านหน้าเป็นวิวของหมู่บ้านทางแดง ซึ่งมีบ้านชาวบ้านปลูกสร้างไล่เรียงไปตามเส้นทางของหุบเขา เป็นทางยาวไปจนถึงถนนใหญ่ เมื่อเงยหน้าขึ้นสูงหน่อย ก็พบกับเนินเขาลูกเล็ก ลูกน้อย สลับกันไปมา เงยหน้าสูงขึ้นไปอีก ก็พบกับผาซ่อนแก้ว ผาใหญ่ที่สงบเงียบมั่นคง สวยงามสุดๆ ในฤดูฝน เพราะเมฆหมอกจะมารวมตัวกันอยู่บริเวณนี้เกือบทั้งวัน
ด้านหลังพระเจดีย์ เป็นหุบเขาใหญ่ เขตป่าสงวนแห่งชาติ เป็นหุบเขาบริเวณเดียวกับที่ได้ชมวิวจาก ร้านคอฟฟี่ฮิลล์ รายล้อมไปด้วยยอดเขาสูงใหญ่ กับสีเขียวของป่าไม้ที่มีการรณรงค์ให้อนุรักษ์ เพื่อรักษาป่าต้นน้ำ และเพื่อเป็นแนวป้องกันการเกิดดินถล่มลงไปยังชุมชนเชิงเขา
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ฤดูไหนก็น่าไปทั้งนั้น
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าฤดูไหนน่าเที่ยวที่สุดสำหรับ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว แอดมินเชื่อว่าทุกคนต้องคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน เพราะฤดูกาลที่ดีที่สุดสำหรับที่นี่ คือ ฤดูฝน ทุกคนอาจจะงงว่าทำไมถึงเป็นฤดูฝน ทั้งที่ฝนตกหนัก ถนนก็ลื่น ไม่น่าเที่ยวเสียเท่าไหร่
แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณได้ลองไปวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วในฤดูฝน คุณจะได้พบกับทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดในบริเวณผาซ่อนแก้ว ก็อย่าที่บอกว่าที่ตั้งของวัดอยู่บนภูสูงและรายล้อมไปด้วยต้นไม้ป่าเขา เมื่อใดที่ฝนตกลงมาแล้วลมสงบเมื่อนั้นแหละบริเวณทั้งวัดและพื้นที่ใกล้เคียงจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาวแน่นอน
หรือถ้าใครอยากไปเที่ยวในฤดูหนาว ก็ถือว่ายังได้อยู่ เพราะช่วงนั้น อากาศค่อนข้างหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำ อากาศปลอดโปร่ง แต่จะมีหมอกน้อยกว่าในฤดูฝน และสำหรับใครที่ไม่ชอบอากาศหนาวหรือไม่ชอบเวลาฝนตก ก็สามารถไปในฤดูร้อนได้ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์บริเวณรอบ ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย เห็นได้ว่า วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ก็สามารถขึ้นไปนมัสการไหว้พระ หรือขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ได้ทั้งนั้น
คาถาบูชาพระพุทธเจ้า 5 พระองค์
แน่นอน! เมื่อเดินทางไปถึงวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือการเข้ากราบไหว้ พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ การกราบไหว้นมัสการท่านเฉยๆ ดูจะธรรมดาไป วันนี้ก็เลยนำคาถาบูชาพระเจ้า 5 พระองค์มาฝากด้วย โดยมีใจความดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ
นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ
พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาล วินาศสันติ
นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป
พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง
การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน จากนั้นเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสระบุรี-หล่มสัก ขับบนเส้นทางนี้ราว 270 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 12 ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก บริเวณแยกอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง แล้วขับต่อบนถนนเส้นนี้อีกราว 20 กิโลเมตร ในเส้นทางที่จะไปแยกแคมป์สน มีจุดสังเกตคือ อบต.แคมป์สนอยู่ทางขวามือ ตรงไปแล้วกลับรถ ทางเข้าวัดจะอยู่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านทางแดง ข้างๆ อบต.แคมป์สน
รถโดยสารสาธารณะ
เลือกลงสถานีปลายทางได้ 2 สถานีคือ
1.สถานีหล่มสัก จากนั้นเรียกรถต่อไปยัง จ.พิษณุโลก ลงที่หน้าตลาดห้วยไผ่ ปากทางเข้าหมู่บ้านทางแดง แล้วเดินประมาณ 10 นาทีจะเห็นสะพานทางเข้าวัดทางด้านขวามือ
2.สถานีในตัวเมืองเพชรบูรณ์ แล้วต่อรถโดยสารในตัวเมืองไปยังตำบลแคมป์สน ลงรถที่หน้า อบต.แคมป์สน หรือหน้าตลาดห้วยไผ่
เครื่องบิน
เดินทางมาลงที่ท่าอากาศยานพิษณุโลก จากสนามบิน ขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร สังเกตด้านซ้ายมือ จะผ่านชีวาศรม จากนั้นตรงต่อไปจะเห็นป้าย “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านทางแดง ข้าง อบต.แคมป์สน
ที่ตั้ง : เลขที่95 หมู่ 7 บ้านทางแดงตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67280
โทรศัพท์ : 084-494-1262
เวลาเปิด-ปิดทำการ
– เขตพุทธาวาส ทุกวัน 08:00– 17:00 น.
– เขตสังฆาวาส เฉพาะพระสงฆ์และผู้ที่มาปฏิบัติธรรมเท่านั้น
สรุป
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดดังของเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดดเด่นเป็นสง่า ตั้งอยู่บนยอดภูที่มีความสูงเป็นอย่างมาก และหนึ่งในสถานที่สำคัญภายในวัด นั่นก็คือ มหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่มีพระพุทธเจ้าสีขาว 5 พระองค์เรียงซ้อนกันอยู่ ดูงามแปลกตาไม่เหมือนที่ใด
อีกทั้งยังสามารถชมวิวรอบจังหวัดเพชรบูณ์ได้แบบ 360 องศาอีกด้วย บรรยากาศรอบวัดก็ดี ทั้งเงียบสงบและเย็นสบาย ยิ่งในฤดูฝน จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน ตัววัดเองก็จะมีหมอกสีขาวปกคลุมอยู่รอบๆ ตลอดเวลาอีกด้วย
ก่อนจากกันไป ใครที่อยากอ่านบทความดีๆ เด็ดๆ ทั้งเรื่องความเชื่อ แรงศรัทธา ทำนายฝัน ดูดวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สูตรหวย สถิติหวย เลขเด็ด เราได้ทำการรวบรวม เรื่องดี เรื่องดัง เรื่องน่าสนใจ มาให้ทุกท่านไว้แล้วที่นี่ที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาหาเยอะแยะ มาพบกับพวกเราได้ในทุกวันที่ Ruay365.com