อลังการหลักร้อยล้าน! วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ วัดดังที่ต้องมาชม

เปิดตัวอลังการ ด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท! สำหรับ วัดปากน้ำ หรือ ที่หลายคนคุ้นหูกัน ‘วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ’ วัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา พบกับความตื่นตาตื่นใจอย่าง พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 4 สมัย พร้อมด้วยความหรูหราที่หลายคนต้องตกใจ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ผู้คนต่างบอกว่า วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดธรรมกาย แต่จากกรณีปัญหารถโบราณสุดหรู  ทำให้ชื่อเสียงของวัดติดหูคนมากขึ้น มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะเข้ามาสัมผัสความสวยงามและหรูหราของวัดแห่งนี้ ที่สำคัญ ต้องไม่พลาดแวะ “พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล” ภายในเป็นสถานที่จัดของเก่าแก่ไว้มากมาย เล่ามาขนาดนี้แล้ว ก็ตาม Ruay ไปดูวัดปากน้ำ ที่คนกล่าวขานว่าหรูหรามากมายกันดีกว่า

ผนังพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล
ขอบคุณภาพจาก nordlys1966 / Twitter

เปิดประวัติวัดปากน้ำภาษีเจริญ

วัดปากน้ำภาษีเจริญ
ขอบคุณภาพจาก Tukka_taa / Twitter

วัดปากน้ำ หรือที่เราเรียกกันบ่อยๆ ว่า “วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ” หนึ่งในวัดสำคัญของสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นพระอารมหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีพื้นที่ทั้งหมด 20 ไร่ 88 ตารางวา คาดว่า ถูกสถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. 2153 สมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม แต่ยังไม่มีการปรากฏพระนามชัดเจน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2158 และ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงปี พ.ศ. 2199 หรือในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั่นเอง

อีกทั้ง วัดแห่งนี้ ยังเป็นวัดประจำหัวเมืองธนบุรี จนกระทั่งต้นสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 วัดเริ่มมีสภาพทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ไม่มีเจ้าอาวาสอยู่ประจำพระอารามเลย คณะสงฆ์จึงทำการจัดตั้ง พระสมุห์สด จนฺทสโร จาก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) มาดำรงตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. 2459

ภายในวัด มีถาวรวัตถุมากมายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น พระประธานในอุโบสถ ของเก่าแก่คู่วัด พุทธศิลปะทั้งหลาย ล้วนเป็นศิลปะสมัยอยุธยา หอไตร รวมไปถึง พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล หรือ ที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อ ‘พิพิธภัณฑ์วัดปากน้ำ’

พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล
ขอบคุณภาพจาก nordlys1966 / Twitter

พุทธสถานยอดนิยมของคนไทยและต่างชาติ ‘พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล’

ด้านหน้าพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล
ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์

ใครไม่มา Ruay บอกเลยว่า พลาดมาก กับ ‘พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล’ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้รับหน้าที่เป็น ประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ สูง 80 เมตร กว้าง 50 เมตร ยาว 50 เมตร มีทั้งหมด 5 ชั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากเจดีย์วัดโลกโมฬี จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะทรงสี่เหลี่ยมแบบย่อมุมไม้สิบสอง มีฐานเก้าชั้น เป็นการผสมผสานกันระหว่างศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์และล้านนา

พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล สร้างขึ้น เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและสังฆบูชา อีกทั้ง ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวมถึง เป็นการบูชาพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ ผู้เป็นมหาปูชนียาจารย์ รวมถึงเป็นอนุสรณ์สถานเจริญศรัทธาของพุทธศาสนิกชน

ตัวอาคารพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล
ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์

นอกจากเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติ ด้วยความโดดเด่นของศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมไทย ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ และความงดงาม ที่เต็มไปด้วยความหรูหราเกินคำบรรยาย ทำให้มีผู้คนให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม โดยเราจะมาเริ่มแนะนำกันเลยว่า แต่ละชั้น มีอะไรบ้าง

ชั้น 5 ห้องพุทธคุณารมณ์

ชั้น 5 ห้องพุทธคุณารมณ์
ขอบคุณภาพจาก nordlys1966 / Twitter
ลายพระมหาเจดีย์วัดปากน้ำ
ขอบคุณภาพจาก nordlys1966 / Twitter

เริ่มต้นกันที่ ชั้น 5 หรือเรียกว่า ‘ห้องพุทธคุณารมณ์’ เป็นที่ประดิษฐานเจดีย์แก้วองค์แรกของโลก มีชื่อว่า “พระรัตนเจดีย์ศรีมหามงคล” มีการจำลองแบบมาจากพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล สร้างจากแก้วสีเขียวมรกต ลายกระแสน้ำ มากกว่า 800 ชิ้น 800 ชั้น สูงกว่า 8 เมตร น้ำหนักกว่า 18 ตัน ใช้เวลาก่อสร้างถึง 3 ปี

องค์ประกอบสำคัญของพระเจดีย์แก้วองค์นี้ ได้แก่ พญานาค 80 ตน ซึ่งตรงกับจำนวนพระชนมายุของพระพุทธเจ้า นอกจากนั้น ยังมีระเบียงให้ออกไปเดินชมทัศนียภาพรอบๆ วัดในมุมสูงด้วย ชั้น 5 นี้ ถือเป็นไฮไลท์ประจำวัดปากน้ำเลยก็ว่าได้ มาถึงวัดแล้วไม่แวะชั้น 5 ถือว่ามาไม่ถึง!

ชั้น 4 ห้องธัมมคุณารมณ์

ชั้น 4 ห้องธัมมคุณารมณ์
ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์

หลังจากสำรวจชั้น 5 กันจนพอใจ ก็ลงมายัง ชั้น 4 หรือ ‘ห้องธัมมคุณารมณ์’ มีการประดิษฐานรูปเหมือนพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ บูรพาจารย์ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ขนาดเท่าครึ่งขององค์จริง หล่อด้วยทองคำบริสุทธิ์ หนัก 1 ตัน สร้างถวายโดย พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และ คณะ ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555 รวมถึงพระมหาเถระ และ พระเถระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์

ชั้น 3 ห้องสังฆคุณารมณ์

ชั้น 3 ห้องสังฆคุณารมณ์
ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์

ถัดมาก็คือ ชั้น 3 หรือ ‘ห้องสังฆคุณารมณ์’ สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ที่ใช้ในการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ ของที่ระลึก รวมไปถึงเครื่องสักการะที่ได้รับถวายมาในโอกาสต่างๆ เช่น พระพุทธรูป รูปเหมือนบูรพาจารย์ พัดยศโบราณ มีการเขียนประวัติเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ซึ่งเขียนด้วยลายมือของท่านเอง

ชั้น 2 ห้องธรรมคุณารมณ์

ชั้น 2 ห้องธรรมคุณารมณ์
ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์

เดินต่อลงมากันที่ ชั้น 2 เรียกอีกอย่างคือ ‘ห้องธรรมคุณารมณ์’ เป็นชั้นที่มีไว้เพื่อจัดงาน พิธีประชุม และนั่งสมาธิ เป็นพื้นที่ว่างสำหรับจัดเตรียมไว้เพื่อประชุมสัมมนา และปฏิบัติธรรม และสำหรับพิธีการสำคัญอื่นๆ เช่น พิธีมอบประกาศสำนักนายก เรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา เป็นต้น

ชั้น 1 ห้องมหาชนคุณารมณ์

ชั้น 1 ห้องมหาชนคุณารมณ์
ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดปากน้ำ
ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์

มาจบกันที่ชั้นสุดท้าย ชั้น 1 ‘ห้องมหาชนคุณารมณ์’ ห้องนี้ ถือเป็นห้องที่ใช้ในการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่น่าสนใจ ใครที่ชื่นชอบของเก่า ของโบราณ ต้องถูกใจชั้น 1 เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นสถานที่ประดิษฐานของ ‘พระพุทธบารมีมงคล’ (พระพุทธรูปหยกเขียว) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหยกจากประเทศอิตาลีด้วย

ทั้งนี้ ยังเป็นสถานที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน และสิ่งของเครื่องใช้โบราณจำนวนมาก อย่าง สมุดข่อย ภาพถ่าย เครื่องมือเกษตรกรรม เรือ รถม้า เครื่องเบญจรงค์ เครื่องปั้นดินเผา รวมไปถึงรถยนต์โบราณ

ข้อมูลทั่วไปของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

แผนที่วัดปากน้ำ
ขอบคุณภาพจาก nordlys1966 / Twitter

ที่ตั้ง : 300 ซอย รัชมงคลประสาธน์ แขวง ปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160

เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. ไม่มีวันหยุด

การเดินทาง : MRT สถานีบางไผ่ ประตูทางออกที่ 1 แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 800 เมตร เดินเท้า 10 นาที หรือจะต่อวินมอเตอร์ไซต์ไปก็ได้

สรุป

วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ วัดเก่าแก่ริมคลองย่านฝั่งธน หนึ่งในวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ของสมัยกรุงศรีอยุธยา พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอย่าง ‘พระรัตนเจดีย์ศรีมหามงคล’ ที่มีผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติ ต่างก็ต้องมาชมสถานที่แห่งนี้ด้วยตาของตัวเองเท่านั้น มีการใช้งบสร้างวัดแห่งนี้มากกว่า 500 ล้านบาท เรียกว่า หรูหรา เวอร์วังอลังการสุดๆ

ใครที่ชอบศิลปะผสมผสานระหว่างสมัยรัตนโกสินทร์และล้านนา ต้องมาดูวัดปากน้ำให้ได้ ยิ่งได้ยินงบประมาณที่ใช้ในการสร้างสถานที่แห่งนี้แล้ว ทำเอาหลายคนถึงกับอุทาน ‘ว้าว’ ไปตามๆ กัน แต่เมื่อเข้าไปดูด้วยตัวเอง ทุกคนก็จะถึงบางอ้อกันในทันที ว่าทำไมวัดแห่งนี้ถึงใช้งบประมาณในการสร้างสูงถึงขนาดนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

Facebook
Twitter
Email