เที่ยวใกล้กรุงเทพที่นี่เลยไม่อยากให้พลาดกับ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งนอกจากทะเล และอาหารทะเลแสนอร่อยแล้ว ที่แห่งนี้ยังมี วัดนางสาว วัดชื่อแปลกที่ชวนชมด้วย เพราะแค่ชื่อวัดก็ชวนงงแล้วว่า ทำไมวัดแห่งนี้จึงมีชื่อว่า “วัดนางสาว” ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ สำหรับคนทั่วไปมากเลยทีเดียว
ขอบอกเลยว่า ที่ จังหวัดสมุทรสาคร ไม่ได้มีดีแค่ ตลาดมหาชัย หรือ ทางรถไฟแม่กลอง แน่นอน ใครมาจังหวัดสมุทรสาคร ก็ต้องมากราไหว้พระที่วัดนางสาวนี่แหละ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของที่นี่เขาเลย วัดแห่งนี้มีอะไรดีบ้าง ไปดูกันเลยกับ Ruay 365 เลยค่ะ
สารบัญ
Toggleประวัติวัดนางสาว
วัดนางสาวเกิดขึ้นมาพร้อมกับ ตำบลท่าไม้ มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยตำบลท่าไม้ เป็นตำบลหนึ่ง ในเขตเมืองสาครบุรี หรือ จังหวัดสมุทรสาครในปัจจุบัน เป็นเมืองชายทะเลตอนใต้ของกรุงศรีอยุธยา มีชาวไทยกลุ่มหนึ่งอพยพหนีสงครามมาที่วัดร้างริมแม่น้ำ หรือ แม่น้ำท่าจีน ในปัจจุบัน
อยู่ดีๆ ก็ได้ไปพบเข้ากับทหารลาดตระเวนของพม่า จึงเกิดการต่อสู้กัน ผู้ชายพากันร่วมแรงร่วมใจการสู้ ส่วนคนชรา ผู้หญิงและเด็ก ต่างพากันหาที่หลบซ่อน ในบริเวณนั้น มีโบสถ์เก่าๆ อยู่หลังหนึ่ง จึงได้วิ่งเข้าไปซ่อนตัวกัน หนึ่งในนั้น มีหญิงสาวพี่น้อง 2 คน ที่รู้สึกกลัวมากจนไม่รู้ว่าจะทำยังไง จึงพากันตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ถ้ารอดตายคราวนี้ จะช่วยกันบูรณะซ่อมแซมโบสถ์หลังนี้ พร้อมสร้างวัดขึ้นใหม่ให้ด้วย
หลังสิ้นเสียงการอธิษฐาน การต่อสู้ก็ได้ยุติลง ทุกคนได้พากันออกมาจากที่หลบซ่อน และได้สร้างบ้านเรือน อาศัยอยู่ที่บริเวณนั้น เมื่อหญิงสาวทั้งสองทำมาหากิน จนมีหลักฐานมั่นคงแล้ว หญิงสาวผู้น้องจึงคิดจะทำตามคำอธิษฐาน แต่หญิงสาวผู้พี่ค้านว่า โบสถ์หลังเก่านั้นทรุดโทรมมาก ยากจะซ่อมแซม ควรหาที่ใหม่ทำการสร้างโบสถ์และวัดจะดีกว่า เมื่อพี่น้องมีความเห็นต่างกัน จึงไม่ได้ทำการบูรณะซ่อมแซมโบสถ์หลังนั้น
ต่อมา หญิงสาวผู้พี่ได้แต่งงานกับเศรษฐีหนุ่มคนหนึ่งในละแวกนั้น และได้ย้ายไปอยู่บ้านสามีที่อยู่ทางเหนือ ทั้งสองสามีภรรยาได้สร้างวัดขึ้นมาชื่อ วัดกกเตย ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะว่าถูกกระแสน้ำพัดจนพังลงไปในแม่น้ำ ฝ่ายหญิงสาวผู้น้องยังคงครองตัวเป็นโสดตลอดมา
และได้ตั้งสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ยอมแต่งงาน จนกว่าจะได้บูรณะซ่อมแซมโบสถ์หลังเก่านี้ จากนั้นหญิงสาวผู้น้องก็ได้ดำเนินการบูรณะซ่อมแซมโบสถ์และสร้างวัดขึ้นมาจนสำเร็จ ชาวบ้านจึงให้ชื่อวัดว่า “วัดพรหมจารีราม” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่หญิงสาวผู้น้อง แต่คนส่วนใหญ่มักนิยมเรียกกันว่า “วัดน้องสาว” ซึ่งต่อมา คำที่เรียกว่า วัดน้องสาว ได้กลายมาเป็น “วัดนางสาว” ในปัจจุบัน
ไฮไลท์สำคัญ ประจำ วัดนางสาว
โบสถ์มหาอุตม์
โบสถ์มหาอุตม์ เป็นโบสถ์โบราณที่มีลักษณะแปลกกว่าโบสถ์อื่นๆ คือ มีประตูทางเข้า-ออก เพียงแค่ประตูเดียว ไม่มีหน้าต่าง หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา พัทธสีมาเป็นสองชั้น ไม่ปรากฏว่าได้ก่อสร้างขึ้นมาสมัยใด แต่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาใน สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น
โบสถ์มหาอุตม์ เป็นโบสถ์เก่าแก่ตั้งสมัยอยุธยาต้อนต้น ที่มีอายุมากว่า 400 ปีมาแล้ว นับเป็นโบสถ์ที่มีเหลือให้เห็นอยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย และโบสถ์มหาอุตม์ที่วัดนางสาวแห่งนี้ ยังมีความสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย
หลวงพ่อมหาอุตม์
ภายในโบสถ์มหาอุตม์ มีพระประธานคือ “หลวงพ่อมหาอุตม์” ประดิษฐานอยู่คู่กับโบสถ์มหาอุตม์ ลักษณะของโบสถ์ถูกสร้างขึ้นมาอย่างง่าย คือ มีประตูทางเข้าออกประตูเดียว ไม่มีหน้าต่าง แต่ไม่ทำให้รู้สึกร้อนหรืออับหรือมืด แต่อย่างใด ยังคงได้รับแสงสว่างจากพระอาทิตย์ แสงกระทบกับผิวน้ำ ผ่านเข้ามาทางประตูโบสถ์ และ ยังมีแสงสว่างผ่านเล็ดลอดมาจากช่องระหว่างกระเบื้องของหลังคาโบสถ์ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นผลงานจากฝีมือของช่างไทยในสมัยโบราณ
หลวงพ่อดำ
วัดนางสาว ไม่ได้มีเพียงโบสถ์มหาอุตม์ที่เก่าแก่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมี “หลวงพ่อดำ” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในละแวกนั้น ซึ่งมีชาวบ้านมากราบไหว้ขอพร และ บนบานอยู่ทุกวัน ชาวบ้านเชื่อและศรัทธาในหลวงพ่อดำเป็นอย่างมาก จนได้มีการร่วมทำบุญสร้างวิหาร เพื่อประดิษฐานหลวงพ่อดำอย่างที่อยู่ในปัจจุบันคู่กับวิหาร “หลวงพ่อป่าเลไลย์” อีกด้วย
วิหารคู่
วิหารสองหลัง ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายและด้านขวาของโบสถ์ ภายในวิหารแต่ละหลัง ประดับตกแต่งด้วยกระจกสี เป็นลวดลายวิจิตรสวยงาม เมื่อหันหน้าเข้าโบสถ์ วิหารทางซ้าย ประดิษฐาน หลวงพ่อป่าเลไลย์ ส่วนทางขวาประดิษฐานหลวง
เจดีย์
ตั้งอยู่บริเวณ ด้านข้างศาลาการเปรียญ ลักษณะเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน ย่อมุมไม้สิบสองทรงระฆัง ฐานเจดีย์เป็นฐานสิงห์ซ้อนกัน 3 ชั้น มีบัลลังก์รองรับปากระฆัง องค์ระฆังมีการตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้และพวงอุบะ ส่วนยอดเป็นบัวคลุ่มเถาและปลียอด
การเดินทางไปวัดนางสาว
สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม กม. ที่ 25 เลี้ยวซ้ายตรงแยกอ้อมน้อย เข้าไปตามถนนเศรษฐกิจ 1ไปทางกระทุ่มแบน ประมาณ 5 กม. เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 800 เมตรก็จะถึง วัดนางสาว หรือใช้เส้นทางถนนธนบุรี-ปากท่อ กม. ที่ 29-30 แยกเข้าถนนเศรษฐกิจ 1 ไปทางกระทุ่มแบนระยะทางประมาณ 15 กม.
ที่ตั้ง :ตำบล ท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน สมุทรสาคร 74110
สรุป
ชมโบสถ์แปลกสุดเก่าแก่อย่าง โบสถ์มหาอุตม์ กันได้ที่ วัดนางสาว จังหวัดสมุทรสาคร เมืองชายทะเล ได้ชมทั้งบรรยากาศสุดชิวได้ทุกวัน อีกทั้งยังได้กราบไหว้พระ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลอีกด้วย ใครที่จะไปที่วัดนางสาว แอดมินแนะนำให้ไปช่วงเย็นๆ นะคะ เพราะหลังจากไหว้พระและเดินชมวัดเสร็จ เราสามารถรอดูพระอาทิตย์ตรงดินได้ที่นี่ ขอบอกว่าสวยมากๆ เลยค่ะ
ก่อนจากกันไป ใครที่อยากอ่านบทความดีๆ เด็ดๆ ทั้งเรื่องความเชื่อ แรงศรัทธา ทำนายฝัน ดูดวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สูตรหวย สถิติหวย เลขเด็ด เราได้ทำการรวบรวม เรื่องดี เรื่องดัง เรื่องน่าสนใจ มาให้ทุกท่านไว้แล้วที่นี่ที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาหาเยอะแยะ มาพบกับพวกเราได้ในทุกวันที่ Ruay 365