วัดเขาทำเทียม ถ้าถามคนทั่วไปบางคนอาจจะไม่รู้จัก และอาจจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อ แต่เชื่อไหม? ว่า วัดนี้เป็นวัดที่สำคัญอีกแห่งของประเทศไทยก็ว่าได้ สำคัญยังไงนะเหรอ? นั่นก็เพราะ วัดเขาทำเทียม เป็น วัดแห่งแรกในประเทศไทยยังไงล๊ะ ส่วนความเป็นของวัดแห่งนี้ ทำไม ? ถึงได้ชื่อว่าเป็นวัดแห่งแรกของไทย และมีสถานที่ใดสำคัญบ้าง ตามแอดมินมาเลยไปหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน
สารบัญ
Toggleวัดเขาทำเทียม กับประวัติความเป็นมา
เชื่อกันว่าบริเวณนี้แต่เดิมเป็นวัด และเป็นวัดแห่งแรกในประเทศไทยที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 300 เนื่องจากมีการขุดพบก้อนหินขัดมันขนาดใหญ่ จารึกด้วยภาษาสันสกฤตว่า “ปุษยคิรี” คำๆ นี้มีความหมายมาก เพราะตามประวัติศาสตร์ชมพูทวีป ในพุทธศตวรรษที่ 3 สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระ ได้ทำการสังคายนา ครั้งที่ 3 ณ เมืองปาฏลีบุตร โดยมีพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นองค์อุปถัมภ์
จากนั้น พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระได้ส่งพระอรหันต์สมณทูต ก็ได้ออกมาเผยแพร่ศาสนาทั้งหมด 5 องค์ด้วยกัน ได้แก่ พระโสณะ พระมุนียเถระ พระฌานีเถระ พระภูริยเถระและพระอุตตรเถระ โดยส่งออกไปทั้งหมด 9 สาย ครั้งนั้นพระโสณะและพระอุตระเป็นสายที่ 8 ได้เดินทางมายังสุวรรณภูมิ ถึงเขาแห่งหนึ่งที่มีดอกงิ้วสามสีและดอกสุพรรณิกาอยู่มาก
สมณทูตทั้งสองได้สร้างอารามเผยแผ่ศาสนาขึ้นที่เขาแห่งนี้ และให้ชื่อว่า “ปุษยคีรี” แปลว่าภูเขาดอกไม้ โดยชื่อนี้นอกจากจะตั้งขึ้นให้สมกับสถานที่แล้วยังตั้งขึ้นเพื่อให้พ้องกับปุษยคีรีสังฆาราม ที่รัฐโอริสสา ประเทศอินเดียด้วย
วัดเขาทำเทียมมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง?
เมื่อทราบถึงความเป็นมาของวัดแห่งนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดแห่งแรกของไทยแล้ว คราวนี้เรามาดูกันต่อว่าภายในวัดมีสถานที่สำคัญอะไรบ้าง เพื่อที่ว่าใครที่มีโอกาสได้ไปทำบุญยังที่วัดแห่งนี้จะได้เข้าไปสักการะขอโชคขอพรได้ถูก ซึ่งสถานที่สำคัญของวัดแห่งนี้ มีทั้งโบราณสถานโบราณวัตถุ และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก ได้แก่
โบราณสถานและโบราณวัตถุ
ภายในวัดเขาทำเทียม มีซากโบสถ์และฐานเจดีย์สมัยอยุธยาตอนปลาย ที่กรมศิลปากรได้ขุดแต่งเสริมความมั่นคงของฐานรากในปี พ.ศ. 2555 โดยเจดีย์เป็นเจดีย์ทรงระฆังกลมฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 6 เมตร โบสถ์สี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีประตูทางเข้าบานเดียว มีใบเสมารายรอบทั้ง 8 ทิศ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย
ส่วนโบราณวัตถุที่พบมากมายในบริเวณวัด ได้รับการเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอู่ทองเป็นส่วนใหญ่ นอกจากแผ่นหินสลักชื่อ “ปุษยคิรี” แล้วที่โดดเด่นอีกชิ้นหนึ่งก็คือ เสมาธรรมจักรที่เก่าแก่และมีความสมบูรณ์มาก ขุดพบเมื่อปี พ.ศ. 2519 ก็ได้รับการเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์แหงชาติอู่ทองเช่นกัน
พระพุทธรูปปางเปิดโลก
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อมา ได้แก่ พระพุทธรูปปางเปิดโลก อยู่บนยอดเขาที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสักการะพระพุทธรูปพร้อมชมวิวมุมสูงจากจุดนี้ไปพร้อมๆ กัน พระพุทธรูปปางเปิดโลกเป็นพระปางยืน สองพระพาหาห้อยแนบพระองค์ พระหัตถ์ทั้งสองข้างหันออกด้านหน้า แสดงพุทธประวัติช่วงที่พระพุทธองค์ทรงเปิดทั้งสามโลกให้สัตว์นรก เทวดาบนสวรรค์ และมนุษย์โลกได้เห็นกันและกัน
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง
นอกจากพระพุทธรูปปางเปิดโลก แล้วที่วัดแห่งนี้ยังมี พระพุทธรูปปางโปรดพุทธมารดา ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของวัด เพราะพระพุทธรูปองค์นี้ ถูกแกะสลักจากหน้าผ้าหินชื่อ ‘ผามังกรบิน’ มีขนาดหน้าตัก 25 เมตร สูง 35 เมตร โดยเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2557 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2561
บริเวณนี้แต่เดิมเป็นเขตสัมปทานระเบิดภูเขาทำโรงโม่หิน ทว่าหลังจากปี 2534 ไม่มีการต่อสัมปทานจึงกลายเป็นหน้าผาร้าง ต่อมาพระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินันโท) เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลย์วรวิหาร ได้คิดสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัด โดยมีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีช่วยดำเนินการจนแล้วเสร็จ
สำหรับพุทธมณฑลแห่งนี้ นอกจาก จะมีพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ แล้ว ทางวัดเขาทำเทียม ยังสร้างพระพุทธรูปแกะสลักจากหน้าผาอีกหลายองค์ ได้แก่ สิทธัตถะราชกุมาร (ปางประสูติ), พระพุทธรูปปางสมาธิ (ปางตรัสรู้), พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา และพระพุทธรูปปางปรินิพพาน
โดยฐานของหน้าผาที่ใช้แกะสลักพระพุทธรูปทั้งหมด จะถูกเจาะเป็นถ้ำยาวต่อกันตลอดแนว เพื่อให้ผู้คนสามารถเดินผ่านและสักการะสิ่งศักดิสิทธิ์ที่อยู่ด้านในได้ อาทิ พระพุทธรูปปางสมาธิ ปางโปรดพุทธมารดา พระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ พระสีวลีปางธุดงค์ พระแม่ธรณีบีบมวยผม และหลวงจีนชีฉือ
โดยหลวงจีนชีฉือคือหลวงจีนอ้วนลงพุงที่คนไทยมักเข้าใจสับสนกับพระสังกัจจายน์พุทธสาวก ข้อแตกต่างที่สังเกตได้ง่ายๆ คือ หลวงจีนชีฉือสวมเสื้อแบบพระจีน ส่วนพระสังกัจจายน์ครองจีวรแบบพระเถรวาทมีสังฆาฏิพาดไหล่ชัดเจน ซึ่งในพุทธนิกายมหายานเชื่อว่าหลวงจีนชีฉือคือมนุษิโพธิสัตว์อริยเมตตรัย หรือชาติสุดท้ายก่อนเกิดเป็นพระศรีอริยเมตรัยนั่นเอง
ภาพสลักหินนูนต่ำ
นอกจากการแกะสลักพระพุทธรูปบนหน้าผาสูงแล้ว วัดเขาทำเทียม ยังมีภาพสลักหินนูนต่ำ แสดงเรื่องราวพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าไว้ด้วย เพื่อให้คนมาที่วัดได้ศึกษา เช่น เมื่อครั้งทรงทำทุกรกิริยา เมื่อครั้งทอดพระเนตรคนเล่นพิณจนทรงหันกลับมายึดถือทางสายกลาง เมื่อครั้งนางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาส และทรงตรัสรู้ เป็นต้น
ทั้งนี้นอกจากการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดแล้ว ที่วัดแห่งนี้ยังเปิดให้ สาธุชนได้กราบไหว้บูชา และปิดทองหลวงพ่ออู่ทองไว้บริเวณศาลาที่สร้างขึ้นใหม่ และสิทธัตถะราชกุมาร (บางครั้งเรียกปางประสูติ หรือปางเสด็จพระดำเนิน 7 ก้าว) ที่มีลักษณะเป็นสิทธัตถะราชกุมารชี้มือขึ้นฟ้า อีกทั้งยังสามารถลอยประทีปเพื่อเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย
สรุป
ใครที่เป็นนักเที่ยวสายมู หรือไม่ใช่สายมู ก็สามารถไปเที่ยวได้ทั้งนั้น สำหรับ วัดเขาทำเทียม แล้ว วัดแห่งนี้เป็นเหมือนกับจุดเริ่มต้นของวัดต่างๆ ภายในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นวัดแรกที่สร้างขึ้นในประเทศไทย อีกทั้งยังมี พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นชื่อของที่นี่ ให้ทุกท่านได้ไปเยี่ยมชมความใหญ่และงดงามตระการตา
ก่อนจากกันไป ใครที่อยากอ่านบทความดีๆ เด็ดๆ ทั้งเรื่องความเชื่อ แรงศรัทธา ทำนายฝัน ดูดวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สูตรหวย สถิติหวย เลขเด็ด เราได้ทำการรวบรวม เรื่องดี เรื่องดัง เรื่องน่าสนใจ มาให้ทุกท่านไว้แล้วที่นี่ที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาหาเยอะแยะ มาพบกับพวกเราได้ในทุกวันที่ Ruay365.com