“วิธี ไหว้ศาลหลักเมือง ที่ถูกต้อง แม่ค้าเค้าแนะนำให้ทำยังไงนะ…” เพื่อนสาวร่างบางของฉัน เอ่ยขึ้น หลังจากเราพึ่งซื้อเครื่องสักการะ… ด้วยความที่นางพึ่งได้งานทำที่กรุงเทพฯ นางก็อยากมาไหว้ศาลหลักเมือง เพื่อให้เริ่มงานแบบสุดปัง ตังค์ล้นมือ!
“ไม่ยากเลยแก… แค่เอาดอกบัวไปถวายในหอพระพุทธรูป… เอาธูปเทียนไปถวายที่ศาลา ผูกผ้าสามสี และเอาพวงมาลัยไปไหว้ในวิหารองค์พระหลักเมือง สุดท้ายก็ใส่น้ำมันในตะเกียง แค่เนี๊ยเสร็จแล้ว!” ฉันพูดด้วยความรวดเร็ว “งงมั้ย…” ถ้าใครตามไม่ทัน วันนี้ ruay จะพาไปอัปเดต วิธีไหว้ศาลหลักเมือง ล่าสุด ปี 2564! ไหว้อย่างไรให้ถูกต้อง ให้การงานรุ่ง ได้เลื่อนขั้น มีเงินเก็บหลายแสน! ไปดูกันเลย!
ศาลหลักเมือง สำคัญอย่างไร…
เด็กรุ่นใหม่ ประชาชนชาวไทยควรรู้ว่า… “ศาลหลักเมือง” ของกรุงเทพมหานครฯ เป็นศาลที่สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ โดยเป็นธรรมเนียมของศาสนาพราหมณ์ ที่เชื่อว่า การสร้างเมืองขึ้นใหม่นั้น จะต้องมีการฝังเสาหลักเมืองก่อนเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย จึงได้เกิดการสร้างศาลหลักเมืองขึ้น…
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครฯ… ตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของท้องสนามหลวง ซึ่งตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานครฯ…
ถ้าได้ไปเยี่ยมชม จะเห็นว่า… ศาลาศาลหลักเมืองในปัจจุบัน มีความสวยงามมาก มีรูปแบบเป็นอาคารเครื่องปูน ทรงยอดปรางค์ มีมุขยื่นทั้ง 4 ด้าน และแต่ละด้านก็จะมีหลังคาซ้อน 2 ชั้น มีมุขลดอีกด้านละ 1 ชั้น และมีเครื่องมุงประดับกระเบื้องเคลือบด้วย… โดยเป็นสถาปัตยกรรมอยุธยาโบราณ ที่ได้รับการออกแบบโดย “พล.อ.ต. อาวุธ เงินชูกลิ่น” ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะสถาปัตยกรรม และต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็มีพระบรมราชวินิจฉัยในงานออกแบบครั้งนี้ด้วย…
ประวัติศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครฯ
ทราบไหมว่า… “เสาหลักเมือง” ของกรุงเทพฯ เป็นที่เดียวที่มีเสาหลักเมืองถึง 2 ต้น! เสาหลักเมืองต้นแรก สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยทำพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2324 และเสาหลักเมืองต้นที่สอง สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำพิธีในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2395 โดยมีตำนานเล่าขานว่า…
ในการทำพิธีฝังเสาหลักเมืองต้นแรกนั้น… ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นมงคลขึ้น! โดยระหว่างที่กำลังอัญเชิญเสาลงสู่หลุม ปรากฏมีงูเล็ก 4 ตัวเลื้อยลงหลุมในขณะเคลื่อนเสา จึงทำให้ต้องฝังงูทั้ง 4 ให้ตายอยู่ภายในก้นหลุม… เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ “พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก” ทำนายชะตาเมืองว่า “จะเกิดเหตุร้ายกับบ้านเมืองเป็นเวลา 7 ปี 7 เดือน และราชวงศ์กษัตริย์จะสิ้นสุดลงหลังจากผ่านไป 150 ปี…”
หลังจากนั้น ปรากฏว่า…คำทำนายแรกเป็นจริง! 7 ปี 7 เดือนที่บ้านเมืองย่ำแย่ เป็นช่วงที่ไทยติดพันกับศึกพม่าและศึกเก้าทัพ ซึ่งสิ้นสุดลงหลังช่วงเวลาดังกล่าวพอดี… แต่คำทำนายที่ว่า “ราชวงศ์จะสิ้นสุดหลัง 150 ปี” นั้น ไม่เป็นจริงดังทำนายไว้ เพียงแต่เมื่อครบปีที่ 150 ในปี พ.ศ. 2475 นั้น เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง จาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์” มาเป็น “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข”
เหตุที่คำทำนายไม่เป็นจริง… โหราจารย์เชื่อว่า เป็นเพราะ รัชกาลที่ 4 ทรงแก้อาถรรพ์ไว้ ด้วยการถอนเสาหลักเมือง และวางดวงชะตาพระนครขึ้นใหม่ ในการลงเสาต้นที่สอง ในปีพ.ศ. 2395 พร้อมกับได้บูรณะ “ศาลหลักเมือง” ขึ้นมาใหม่ด้วย… นับตั้งแต่นั้นมา เสาหลักเมืองของกรุงเทพฯ จึงมี 2 ต้น โดยต้นเดิมจะสูงกว่าต้นใหม่…
เสาหลักเมืองต้นแรก… มีลักษณะเป็นไม้ชัยพฤกษ์ ลงรักปิดทอง ส่วนยอดนั้นเป็นรูปบัวตูม ภายในเป็นช่องสำหรับบรรจุดวงชะตาเมือง… ส่วนต้นที่สอง มีแกนเป็นไม้สัก และประกบนอกด้วยไม้ชัยพฤกษ์ ส่วนยอดเป็นทรงมัณฑ์… ใครผ่านไปบริเวณท้องสนามหลวง สามารถแวะไปสักการะ และชมความงามได้!
ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลหลักเมือง
สิ่งที่สำคัญ… นอกจากภายในศาลหลักเมือง จะเป็นที่ประดิษฐาน “องค์พระหลักเมือง” หรือ “เสาหลักเมือง” แล้ว… ก็ยังเป็นที่ประดิษฐานของ “เทพารักษ์ 5 องค์” อีกด้วย ได้แก่ “พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าพ่อเจตคุปต์ และเจ้าพ่อหอกลอง” …ทั้ง 5 เทพารักษ์นี้ จะช่วยดลบันดาลความร่มเย็นมาสู่แผ่นดิน ทำให้ชาวไทยจากทั่วสารทิศ เมื่อมากรุงเทพฯ ก็ต้องแวะมาไหว้ศาลหลักเมือง จนกลายเป็นประเพณีสืบต่อกันมา…
ความศักดิ์สิทธิ์ของ “เจ้าพ่อหลักเมือง”… ชาวไทยเชื่อว่าท่านสามารถดลบันดาล ให้สมปรารถนาได้ทุกประการ ดังต่อไปนี้…
- ช่วยเสริมความมั่นคงในชีวิต ให้ราบรื่น และมีความสุขสมหวัง
- ช่วยเสริมความเจริญในหน้าที่การงาน พบเจอแต่ความก้าวหน้า ได้เลื่อนยศ เลื่อนขั้นตำแหน่ง
- ช่วยเสริมสิริมงคล เสริมพลังบุญ และทำให้มีพลังกาย พลังใจ ในการฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิต
ใครที่กำลังจะเริ่มงานใหม่… ควรหาโอกาสไปไหว้สักการะที่ศาลหลักเมือง เพื่อเป็นสิริมงคล และเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ใครพร้อมจะไปไหว้ท่านแล้ว ไปดูกันเลยว่า มีวิธีไหว้ศาลหลักเมืองที่ถูกต้องอย่างไรบ้าง!
การเตรียมตัวก่อนไป ไหว้ศาลหลักเมือง
การแต่งตัวนั้นเป็นเรื่องสำคัญ… เพราะศาลหลักเมืองตั้งอยู่ในบริเวณพระบรมมหาราชวังด้วย จึงควรแต่งกายให้สุภาพ พร้อมที่จะไปเที่ยว “วัดพระแก้ว” วัดที่มีพระคู่บ้านคู่เมืองได้ด้วย โดยปฏิบัติได้ดังนี้…
- ผู้ชาย : ควรแต่งกายด้วยเสื้อสีขาว กางเกงขายาวดูเรียบร้อย
- ผู้หญิง : ควรแต่งกายให้มิดชิด สวมเสื้อมีแขน ใส่กระโปรงยาวหรือกางเกงก็ได้
ของ ไหว้ศาลหลักเมือง
สำหรับใครที่จะเตรียมตัวไปไหว้ศาลหลักเมือง… ไม่ต้องซื้อเครื่องสักการะไป ทางศาลมีจุดบริการไว้สำหรับซื้อของไหว้แล้ว ชุดละ 60 บาท โดยเครื่องบรรณาการ มีดังต่อไปนี้…
- ธูป 3 ดอก
- เทียน 1 เล่ม
- ดอกบัว 2 ดอก
- พวงมาลัยดาวเรือง 1 พวง
- ผ้าแพร 3 สี
เมื่อซื้อเครื่องไหว้เสร็จแล้ว… ไปดูขั้นตอนง่าย ๆ ในการไหว้ศาลหลักเมืองกันเลย ควรปฏิบัติตามวิธีข้างต้นนี้เท่านั้น เพื่อให้คำขอเป็นผลและศักดิ์สิทธิ์!
การจุดธูป 3 ดอก สำหรับใช้บูชาพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งการจุดธูปกี่ดอก ก็มีความหมายที่แตกต่างกันไป
ดอกไม้มงคลที่สื่อถึงคุณธรรม ความสงบและความสำเร็จ เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์จึงนิยมนำมาไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ดอกไม้ที่ส่งเสริมให้ชีวิตมีความเจริญ รุ่งเรือง มั่งคั่ง โดยเฉพาะด้านการเงิน เนื่องจากดาวเรืองเป็นสีทองสีเหลืองซึ่งสื่อถึงทองนั่นเอง สามารถอ่านความหมายดอกไม้ไหว้พระเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์
วิธีไหว้ศาลหลักเมือง ให้ชีวิตรุ่งเรือง งานมาเงินมี!
ใครที่ดูวิธีไหว้ศาลหลักเมืองจากเว็บไซต์อื่น… ควรรู้ว่าปี 2564 นี้ เขามีวิธีการไหว้ที่เปลี่ยนไปแล้ว! ผู้เขียนได้เดินทางไปลงสนามเองกับตัวและถามแม่ค้ามา วิธีการไหว้ศาลหลักเมือง ทำได้ดังต่อไปนี้…
- ขั้นตอนที่ 1 – นำดอกบัว ขึ้นไปไหว้ที่หอพระพุทธรูป โดยกล่าวคาถาบูชาบนแท่นพิธีที่มีไว้ให้และถวายดอกบัว หรือใครจะใส่บาตรพระประจำวันเกิดก็ได้
- ขั้นตอนที่ 2 – นำธูปเทียน ไปไหว้ที่ศาลาองค์พระหลักเมืองจำลอง โดยปัจจุบันห้ามจุดธูปเทียน แค่ยกมือไหว้และกล่าวคาถาบูชา (ดูได้จากข้างล่าง) เมื่ออธิษฐานและถวายเสร็จแล้ว ก็นำธูปเทียนไปถวายในกล่องที่จัดเตรียมไว้ได้เลย
- ขั้นตอนที่ 3 – นำผ้าแพร 3 สี ไปผูกที่องค์พระหลังเมืองจำลอง อาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครอง
- ขั้นตอนที่ 4 – นำพวงมาลัยดอกดาวเรือง ไปถวายในวิหารองค์พระหลักเมือง กล่าวคาถาที่มีที่หน้าแท่นพิธี และถวายพวงมาลัย
- ขั้นตอนที่ 5 – เข้าไปกราบไหว้เทพารักษ์ทั้ง 5 องค์ในวิหารเทพารักษ์ กล่าวคาถาบูชาตามแท่นพิธีและอธิษฐานขอให้ท่านคุ้มครอง (สามารถถวายพวงมาลัยด้วยก็ได้)
- ขั้นตอนที่ 6 – สุดท้ายแล้ว… นำน้ำมัน ไปเติมในพระประจำวันเกิดครึ่งขวด และอีกครึ่งขวดใส่ในสะเดาะเคราะห์ เป็นอันเสร็จสิ้น!
ปฏิบัติดังขั้นตอนข้างต้น รับรองถูกวิธี และจะทำให้หน้าที่การงานของเรามั่นคง เจ้านายรักและเอ็นดู อีกทั้งยังมีแรงใจในการพิชิตอุปสรรคด้วย ลองไปไหว้กันดูนะ!
คาถาบูชา ไหว้ศาลหลักเมือง
สำหรับใครที่ไม่รู้คาถาบูชา… ควรเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ มาบันทึกคาถานี้ไปได้เลย เพราะว่าที่ศาลหลักเมือง คนเนืองแน่นมาก อาจจะมองเห็นยาก คาถาบูชาศาลหลักเมืองมีดังต่อไปนี้คือ…
คาถาแบบยาวข้างบนนี้… ใช้ในการกล่าวอาราธนา ก่อนที่จะถวายธูปเทียน ที่ศาลาองค์พระหลักเมืองจำลอง ส่วนคาถาข้างล่างนี้ ใช้ในการบูชาพระหลักเมืองในวิหาร โดยกล่าวได้ดังต่อไปนี้…
คาถาบูชาองค์พระหลักเมืองในวิหาร
“(ท่องนะโม 3 จบ) ศรีโรเม เทพเทวานัง พระหลักเมืองเทวานัง พระภูมิเทวานัง ทีปธูปจะบุปผัง สักการะวันทนัง สูปพยัญชนะ สัมปันนัง สารีนัง อุททะกัง วะรัง เตปิตุมเห อานุรักษ์ขันตุ อาโรขเยนะ สุเขนะจะ”
สรุปส่งท้าย
สำหรับใครที่กำลังจะไปสักการะ ไหว้ศาลหลักเมือง … ควรทราบว่า “ศาลหลักเมืองของกรุงเทพมหานครฯ” นั้น มีความสำคัญมากต่อการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์อย่างมาก โดยศาสนาพราหมณ์เชื่อว่า การสร้างเมือง จะต้องมีการลงเสาหลักเมืองก่อนเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยทุกครั้ง จึงเกิดศาลหลักเมืองขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของ “องค์พระหลักเมือง” หรือ “เสาหลักเมือง”
การไป ไหว้ศาลหลักเมือง… เชื่อว่าจะช่วยทำให้หน้าที่การงาน เจริญรุ่งเรือง มั่นคง ทำให้ชีวิตราบรื่น มีแต่ความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา และยังเป็นสิริมงคล ให้พลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ด้วย… ใครที่เริ่มงานใหม่ หรือเดินทางมาทำงานที่กรุงเทพฯ ควรไปไหว้!
วิธีไหว้ศาลหลักเมืองที่ถูกต้อง… ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่ทำตามขั้นตอนข้างบน ที่อัปเดตล่าสุดสำหรับปี 2564 นี้แล้ว รับรองว่าทุกอย่างจะราบรื่น และประสบผลสำเร็จตามที่ใจหวังแน่นอน! ไปไหว้องค์พระหลักเมืองกันเลย!
ขอบคุณภาพจาก khaosod
บทความแนะนำ
