วัดสามพราน (Samphran Temple) ตั้งอยู่ในตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นวัดที่มีการผสมผสานศิลปะไทยและจีนเข้าไว้ด้วยกัน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่แปลกตา อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพแห่งใหม่ ที่บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตรุษจีน
ความอะเมซิ่งของที่นี่ คือ ตึกทรงกลมสีชมพู มีมังกรพันรอบ แลดูเด่นและเห็นแต่ไกลเมื่อมาเยือนจังหวัดนครปฐม จนทำให้สำนักข่าวต่างประเทศมาถ่ายทำวิดีโอโปรโมท และเผยแพร่ไปให้คนทั่วโลกได้ดู โด่งดังจนชาวต่างชาติขนานนามวัดแห่งนี้ว่า “Temple of the Rising Dragon”
ถ้าอยากรู้ว่า วัดสามพรานมีดีอะไร ทำไมดังไกลทั่วโลก? วันนี้เรา Ruay อาสาพาทุกคนเดินทางไปทำความรู้จักกับสถานที่แห่งนี้ด้วยกัน พร้อมแล้วลุย!
สารบัญ
Toggleวัดสามพราน มังกรตะกายฟ้า
เริ่มต้นการเดินทาง
ก่อนอื่นเราต้องศึกษาข้อมูลการเดินทางเป็นอันดับแรก โดยการเดินทางไปยัง “วัดสามพราน จ.นครปฐม” มีให้เลือก 2 ช้อยส์ คือ
- เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี ไปตามถนนสาย 338 ขับตามทางไปเรื่อย ๆ แล้วเลี้ยวเข้าถนนสาย 3415 เลี้ยวซ้าย และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งบริเวณแยกสามพราน ขับไปเรื่อย ๆ จะถึงทางเข้าบริเวณใกล้กับโรงเรียนเบญญาพัฒน์ หรือเปิด Map ตามพิกัดนี้ >> https://maps.app.goo.gl/N53xTXCRFhCQnSAP7
- เดินทางโดยรถสาธารณะ สามารถไปด้วย รถปอ.84 (สีเหลือง) คลองสาน วงเวียนใหญ่ ผ่านบางแค หนองแขม ไปถึงสามพราน หรือนั่ง BTS บางหว้า ลงหน้าวัดได้เลย หรือจะขึ้นรถตู้จากปิ่นเกล้า ไปถึงสามพราน ปลายทางสุดที่ รร.นายร้อยสามพราน
เริ่มต้นทำความรู้จักกับ ประวัติ วัดสามพราน ที่ไม่ได้มีแค่ มังกรตะกายฟ้า
เมื่อเดินทางมาถึง มัคคุเทศก์รวยขอเปิดการเที่ยวชม ด้วยประวัติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตามจุดต่าง ๆ ภายในวัดให้ได้กราบไหว้กันก่อน
จริงแล้ว “วัดสามพราน” แห่งนี้ เดิมทีมีจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวพอรู้จักกันอยู่บ้าง คือ พระประธานองค์เล็กที่สุดและมากที่สุดในโลก 1,250 องค์ ประดิษฐานในพระอุโบสถ
นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ “หลวงพ่อพุทโธภาวนา” องค์สีทองอร่ามตา ประดิษฐานบนดอกบัวสีชมพู ณ โรงเจชั้น 4 และในบริเวณวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ตามจุดต่าง ๆ ให้ได้สักการะมากมาย เช่น…
ประติมากรรมพญาช้างเผือก เป็นประติมากรรมประจำวัดสามพราน มีตำนานเล่าขานถึงความสำคัญว่า เป็นช้างเผือกที่มาสิงหลวงพ่อเมื่อครั้งออกธุดงค์ฯ โดยเราสามารถไปลอดท้องช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคลได้
ตุ่มสมบัติพญานาคพ่นน้ำ มีความเชื่อให้โยนเหรียญลงไป เพื่อให้มีสมบัติมีกินมีใช้ชั่วลูกชั่วหลาน
เต่ายักษ์ สามารถเดินเข้าไปผ่านปากเต่าที่สามารถเปิด-ปิดได้ เนื่องจากมีระบบไฮโดรลิค มีคำแนะนำว่าก่อนเข้าไป ควรอธิษฐานชำระศีลให้บริสุทธิ์ก่อน
เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์ตามคติความเชื่อของชาวจีน เป็นพระผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาต่อสรรพสัตว์ เป็นพระผู้เปี่ยมด้วยความกตัญญู มีความโดดเด่นในเรื่องของความรัก ความมีเมตตา เปรียบเสมือนแม่ที่มีความรักให้กับลูก จึงกลายเป็นอีกหนึ่งองค์เทพที่มีความศักดิ์สิทธิ์
มังกรตะกายฟ้า แลนด์มาร์คประจำ วัดสามพราน ที่ดังไกลไปทั่วโลก
เมื่อเดินชมสิ่งศักดิ์สิทธิ์และประติมากรรมที่น่าสนใจทั้งภายในวัด และบริเวณรอบวัดเรียบร้อยแล้ว มัคคุเทศก์รวยขอพาทุกคนมายังจุดที่ทุกคนต่างรอคอย
แท่น แท๊น แทน! นั่นก็คือ…สถาปัตกรรมแลนด์มาร์คประจำวัดนี้อย่าง “ตึกมังกรตะกายฟ้า” ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะตั้งตระหง่านและเป็นที่สะดุดตามากตั้งแต่เดินทางมาถึง หรือที่เรียกกันว่า “กุฏิพญามังกรตะกายฟ้า”
มังกรตะกายฟ้า มีลักษณะเป็นตึกทรงกลมสีชมพู สูงประมาณ 80 เมตร 16 ชั้น เปรียบได้กับสวรรค์ชั้นพรหม 16 ความโดดเด่นอยู่ตรงที่มี “พญามังกร” ปีนตะกายโอบล้อมตึกจากด้านล่างไปจนถึงยอดตึก ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 5 ปี กว่าจะได้มาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้คนทั่วโลกตะลึง
ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นไปในตัวมังกรเพื่อขึ้นไปสู่ยอดตึกนี้ได้ด้วย เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าไปชมภายในตัวตึก และชั้นบนสุดของตึกได้ แต่จะเปิดให้ขึ้นเฉพาะวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) เนื่องจากวันธรรมดาตึกแห่งนี้ใช้เป็นพื้นที่สำหรับพระสงฆ์
เอาล่ะ ชมด้านนอกกันอย่างจุใจแล้ว เราเดินเข้าไปชมภายในกันดีกว่า เข้ามาแล้วทุกคนอาจจะแปลกใจ เพราะด้านในไม่ได้เป็นบันไดวนเหมือนที่เห็นและเข้าใจจากภายนอก แต่กลับเป็นอุโมงค์ทางลาด ที่อยู่ภายในตัวมังกร มีระยะทางภายในประมาณ 300-350 เมตร
ตลอดการเดินในตัวมังกรเป็นอุโมงค์ค่อนข้างใหญ่ เดินได้สบายมีพัดลม ไม่ร้อน และแม่ชีบอกให้ตั้งจิตอธิษฐานตลอดการเดินขึ้น ถึงแม้การเดินจะระยะทางค่อนข้างไกลแต่ เมื่อมาถึงถึงยอดด้านบนสุดตรงหัวมังกรยักษ์โผล่พ้นขึ้นมา ทุกคนมักจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
พร้อมกับชายตามองบรรยากาศสุดว้าว ที่คุณสามารถชมวิวเมืองนครปฐม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดได้แบบพาโนรามา 360 องศาเลยทีเดียว รู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามของพญามังกรเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ในการสร้างจากฝีมือของมนุษย์ได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลยจริง ๆ
เมื่อถึงด้านบนสุดแล้ว นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพร โดยการอธิษฐานและเขียนชื่อบนผ้าแดง จากนั้นจะนำมาผูกไว้ใต้หัวพญามังกร หากสำเร็จก็จะมาถือศีล 8 และบวชอย่างน้อย 1 วัน หรือแล้วแต่สะดวก ซึ่งจากการบอกกล่าวของผู้ศรัทธาที่นี่ บอกกันว่า การกราบขอพรที่เท้ามังกรช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรงดุจพญามังกร
สัมภาษณ์ความรู้สึกเพื่อนร่วมเดินทาง
ใกล้จบทริป “วัดสามพราน” วัดที่ไม่ได้มีแค่ “มังกรตะกายฟ้า” กันแล้ว เราไปสัมภาษณ์ผู้ร่วมเดินทาง (รีวิวจากบุคคลที่เคยมา) กันหน่อยดีกว่า ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกันบ้าง?
สรุป จบทริปการเดินทาง
เห็นแบบนี้ ใครมีโอกาสก็อยากให้แวะมาจริง ๆ เพราะนอกจากประติมากรรมที่ล้วนมีประวัติสำคัญ ความเชื่อ ตำนาน และความสวยงามของตึกมังกรตะกายฟ้าแล้ว
ยังมีการสอนปฏิบัติธรรมอีกด้วย พร้อมกันนี้บรรยากาศภายในวัดยังรายรอบไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าขึ้นอยู่อย่างร่มรื่น แค่ก้าวเข้ามาภายในวัดก็รู้สึกได้แล้วถึงความสบายใจ เหมาะแก่การมาพักผ่อน ทำบุญ ทำจิตใจให้สงบเป็นที่สุด
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม วัดแห่งนี้ และ มังกรตะกายฟ้า ถึงดึงดูดนักท่องเที่ยว จนดังไกลไปทั่วโลก เพราะไม่ว่าจะมุมสูง มุมกว้าง มุมแคบก็ดูงดงามไปซะหมด และที่สำคัญเดินทางไม่ยาก ไม่ไกลจากกรุงเทพด้วย
ขอแอบแนะนำว่า การเดินขึ้นไปยังข้างบนสุดของตึกมังกรตะกายฟ้าค่อนข้างเหนื่อยเอาการ ใครที่พาผู้สูงอายุไป สามารถให้ท่านเดินเที่ยวชมสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ บริเวณวัด กราบไหว้สักการะ โยนเหรียญขอพร ส่องเลขเด็ดแทนดีกว่า
ส่วนวัยรุ่นอย่างเรา ๆ หรือใครยังไหวสุขภาพแข็งแรงดี มีโอกาสก็อยากให้ขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศแบบอเมซิ่งนี้ดู เพื่อความเป็นสิริมงคลทั้งแก่ตัวเรา และครอบครัวของท่าน
วัดสามพราน มังกรตะกายฟ้า
ตั้งอยู่ : ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม (ลิ้งค์แผนที่อยู่ด้านบน)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 8.00-16.00 น.
ตึกมังกรตะกายฟ้า เปิดให้ขึ้นเฉพาะวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ภายในวัด สามารถเข้าชมได้ทุกวัน
ค่าเข้าชม: ฟรี
บทความที่เกี่ยวข้อง