“รู้ยังปู่! กรมธนารักษ์เขาจะเปิดจอง เหรียญพระคลังมหาสมบัติ รุ่นที่ 3 แล้วนะ!” เด็กหนุ่มพูดขึ้น ระหว่างที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์กับครอบครัว…
“เห้ย! จริงป่าววะ!” ชายชราสำลัก ด้วยความตกใจ “เปิดจองเมื่อไหร่! ปู่จะได้เตรียมตังค์เอาไว้!”
“เปิดจอง 1 พฤศจิกายน 2563 นี้แล้ว! เตรียมเงินไว้เลยนะปู่!”
“ข้าไม่พลาดหรอกโว้ย…” ปู่ชี้ไปที่กำแพง “เห็นนู่นมั้ย! คราวก่อนปู่ซื้อครบทั้งชุดเลย เหรียญพระคลัง รุ่นแรก ปี 2555 ไม่ได้จองกันมาง่าย ๆ นะโว้ย!”
“โห สุดยอดอ่ะปู่!” ชายหนุ่มทำเสียงอ่อน “เห็นเขาว่า เหรียญพระคลังมหาสมบัติจะช่วยให้มีโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ขอผมสักเหรียญนะ!”
“ได้สิ เอ็งเอานี่ไปเลย…” ชายชรายื่นเหรียญใส่มือเด็กหนุ่ม
“เห้ย! นี่มัน …เหรียญ 10 นี่ปู่!”
“ก็เออ ดิ!” ชายชราเขกหัวหนุ่มน้อย “ใครเขาจะบ้าให้เอ็ง! เอ็งรู้ไหมว่าเหรียญพระคลังมหาสมบัติ มีประวัติความเป็นมายังไง! เหรียญแต่ละรุ่นผลิตครั้งเดียวนะโว้ย…”
เหรียญพระคลังมหาสมบัติคืออะไร?
สำหรับคนที่ไม่รู้… “เหรียญพระคลังมหาสมบัติ” ก็คือเหรียญศักดิ์สิทธิ์ ที่กรมธนารักษ์ปลุกเสกขึ้น โดยครั้งแรก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2555 เนื่องในโอกาส ครบรอบ 80 ปี สถาปนากรมธนารักษ์ เพื่อนำรายได้จากการจำหน่าย ไปมอบให้กับ “โครงการเพชรยอดมงกุฎ” รวมทั้งนำไปปรับปรุง ขยายศาลาเครื่องราชอิสริยยศด้วย
เหรียญมงคลนี้ ผ่านพิธีพุทธาภิเษกอย่างเข้มขลัง โดยมี “พระพรหมมังคลาจารย์” วัดไตรมิตรวรวิหาร เป็นประธานในพิธีอธิษฐานจิต นับว่าเป็นวัตถุมงคลที่เล่าลือกันว่า ถ้าใครอยากร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี ต้องบูชาเหรียญพระคลังมหาสมบัติ!
กำเนิดเหรียญพระคลังมหาสมบัติ
ก่อนที่จะกลายเป็นเหรียญศักดิ์สิทธิ์… เดิมที ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเทวรูป “พระคลัง” ขึ้นเพื่อปกป้องคุ้มครอง “พระคลังมหาสมบัติ” ของแผ่นดิน (หรือปัจจุบันเรียกว่า “กรมธนารักษ์”)
โดยเชื่อกันว่า… พระคลัง เป็นเทวดา ที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองอาณาเขต และลงโทษผู้ที่ล่วงละเมิด เข้าไปขโมยทรัพย์สินในพระคลังหลวง นอกจากนั้น ท่านยังเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และความงอกงามแห่งทรัพย์สมบัติด้วย
ภายหลังในปี พ.ศ.2555 เมื่อจะทำการปลุกเสกเหรียญมงคล… “นางพุทธชาติ อรุณเวช” (ผู้อำนวยการสำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน) จึงได้ปั้นแม่พิมพ์ โดยเชิญแบบองค์จริงจาก “เทวรูปพระคลัง” ลงมาประทับบนเหรียญ
ความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญพระคลัง
“พระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ” เป็นเทวดาที่ปกปักรักษาสมบัติชาติ มีลักษณะ เป็นรูปปั้นหล่อ ยืนทรงเครื่องกษัตริยาธิราช สวมมงกุฏยอดชัย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ และพระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว
เมื่อพระคลัง ได้ลงมาอยู่ในเหรียญมงคล จึงเชื่อว่า ท่านจะช่วยดลบันดาลทรัพย์สิน ให้แก่ผู้ที่ครอบครอง อีกทั้งยังช่วยเรื่องการเก็บออม และปกป้องทรัพย์สมบัติในคลังอีกด้วย!
รวมเหรียญพระคลังมหาสมบัติ ทุกรุ่น!
หลังจากรู้ตำนานศักดิ์สิทธิ์ของพระคลังแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่า ว่าเหรียญพระคลังมหาสมบัติมีรุ่นอะไรบ้าง!
เหรียญพระคลังมหาสมบัติรุ่น 80 ปี (พ.ศ.2555)
เป็นเหรียญพระคลัง รุ่นแรก! ผ่านพิธีพุทธาภิเษก โดย “เจ้าคุณธงชัย” (พระพรหมมังคลาจารย์) วัดไตรมิตรวรวิหาร และสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 80 ปี ของกรมธนารักษ์
ลักษณะด้านหน้า มีรูป “เทวรูปพระคลัง” เต็มองค์ ประดิษฐานอยู่หน้าพระวิมานเก๋งจีน ส่วนด้านหลังนั้น มีตราสัญลักษณ์กรมธนารักษ์ และข้อความว่า “ ครบ 80 ปี กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง พ.ศ.2555” ประทับอยู่…
สำหรับรุ่นนี้ มีด้วยกัน 4 ชนิด ได้แก่ เหรียญชนิดทองคำขัดเงา 99% (999,999 บาท), เหรียญชนิดทองคำ 96.5% (50,000 บาท), เหรียญเงินรมดำพ่นทราย (2,000 บาท) และเหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย 95% (ราคา 120 บาท) ไปหามาไว้ครอบครอง ตามกำลังทรัพย์และจิตศรัทธานะ!
เหรียญพระคลัง เพชรยอดมงกุฎ (พ.ศ.2556)
เป็นเหรียญพระคลัง รุ่นที่ 2! สร้างขึ้นเพื่อเป็นการตอบสนอง พลังความศรัทธาของประชาชน ที่ไม่ทันได้จองในครั้งแรก
ลักษณะด้านหน้า เป็นรูปพระคลังมหาสมบัติ หน้าพระวิมานเก๋งจีน มีรูปแบบคล้ายกับรุ่นแรก พิเศษตรงด้านหลัง เป็นรูปยันต์เกราะเพชร ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษา ไม่ให้ภยันตรายกล้ำกรายต่อผู้ครอบครอง
รุ่นปี 2556 นี้ จะถูกสร้างขึ้นเพียงแบบเดียว ก็คือ เนื้อทองแดงรมดำพ่นทรายธรรมดา ราคา ณ ตอนนั้นอยู่ที่ชุดละประมาณ 350 บาท แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ราคาพุ่งสูงขึ้นไปถึง 150,000 บาท ก็ยังมีเลยนะ!
เหรียญพระคลังมหาสมบัติ รุ่นที่ 3 (พ.ศ.2563)
เป็นเหรียญพระคลังรุ่นใหม่ล่าสุด! ปลุกเสกเนื่องในโอกาสกรมธนารักษ์ครบรอบ 88 ปี โดยจะทำพิธีที่ “วัดโสธรวรารามวรวิหาร” จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันที่ 12 ธ.ค. 2563 นี้! ใครที่อยู่ที่นั้น ก็ไปร่วมพิธีปลุกเสกได้นะ!
เหรียญรุ่นที่ 3 จะทำการเปิดจอง ผ่านกรมธนารักษ์ทั่วประเทศ 76 จังหวัด เปิดจองวันที่ 1 พ.ย. 2563 นี้! และรับเหรียญได้ในวันที่ 16 ธ.ค. 2563 หลังพิธีปลุกเสก 4 วัน
เหรียญรุ่นที่ 3 นี้ จะมี 4 แบบด้วยกัน! ได้แก่ ทองคำ 888 เหรียญ (ราคา 55,000 บาท) เหรียญเงิน 8,888 เหรียญ (3,000 บาท) เหรียญทองแดง 888,888 (เหรียญละ 100 บาท) และสุดท้าย! เหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย 38,888 เหรียญ (ราคา 3,000 บาท) ใครอยากได้รีบเตรียมตัวจองเลย!
วิธีบูชาเหรียญพระคลังมหาสมบัติ
สำหรับพิธีบูชา… ทุก ๆ ปีในช่วงเดือนเมษายน จะมีพิธีบวงสรวงพระคลัง หรือ “เจ้าพ่อคลัง” ที่ข้าราชการกรมธนารักษ์นับถือ โดยในพิธีจะมีการจุดธูป กล่าวคำอธิษฐาน ขอบพระคุณท่านที่ช่วยปกปักรักษา ทรัพย์สมบัติหลวงของชาติ
สำหรับใครที่มีเหรียญพระคลังมหาสมบัติ สามารถตั้งพิธีบูชาเองได้! โดยไหว้ในช่วงวันสงกรานต์ ในเดือนเมษายน โดยตั้งโต๊ะอาหารคาวหวาน และจุดธูป 7 ดอก ยกมือไหว้ อธิษฐานขอพรได้เลย
สำหรับคาถาบูชาพระคลัง ที่ใช้ท่องนั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 2 บท คือคาถาบทสั้น และคาถาบทยาว
คาถาบูชาเหรียญพระคลังมหาสมบัติ (บทยาว)
“(ตั้งนะโม 3 จบ)
นะโม เม พระภูมิ เทวานัง
ธูปะทีปะจะปุบผัง สักการะ
วันทะนัง สูปะพยัญชะสัมปันนัง
โภชะนา สาลีนัง อุทะกังวะรัง
สาคัจฉันตุ ปริภุญชันตุ หิตายะ
สุขายะ นะมามิ สิรสานาโค
ปัตถะวิยัง ปริภุญชันตุ เทหิเม
สุขสัมปัตติ สัพพะทา
สัพพะทุกขา วินาสสันติ
สัพพะภะยา วินาสสันติ
สัพพะโรคา วินาสสันติ
พุทธะเตเชนะ ธัมมะเตเชนะ สังฆเตเชนะ
อินทเตเชนะ เทวเตเชนะ
ทิวาตะปะติ อาทิจโจ รัตติมาภาติ
จันทิมา สันนัทโธ ขัตติโยตะปะติ
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ
ตถาคะโต สิทธิลาโภ นิรันตรัง
สัพพะเคราะห์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย
สัพพะเสนียดจัญไร วินาศสันติ”
คาถาบูชาเหรียญพระคลังมหาสมบัติ (บทสั้น)
(ตั้งนะโม 3 จบ)
“มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะ สัมภะวะ สุนทรี ปาณีนัง สะระนังวาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง”
Ruay365 ขอแนะนำ! สามารถท่องบทสั้นได้ ถ้าหากไม่มีเวลาพอ… ควรท่องทุกเช้า และก่อนนอน เพื่อเป็นสิริมงคล ช่วยให้สามารถเรียกโชคลาภ เงินทองเข้ามาได้!
สรุปส่งท้าย
คนที่อยากรวยควรรู้! เหรียญพระคลังมหาสมบัติ เป็นเหรียญศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกปลุกเสกขึ้นโดยกรมธนารักษ์ เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนา 80 ปี โดยเหรียญนี้ เป็นเหรียญที่มี “พระคลัง” (เทวดาเฝ้าสมบัติคลังหลวง) ประทับอยู่
พระคลัง เป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อว่า เป็นผู้ที่จะช่วยปกปักทรัพย์สินแผ่นดิน ใครที่ก้าวล้ำเข้าไปขโมยของจะต้องถูกลงโทษ และท่านยังเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์อีกด้วย!
สำหรับใครที่อยากจองเหรียญพระคลังมหาสมบัติ รุ่นที่ 3 สามารถไปจองได้ที่กรมธนารักษ์ทั่วประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 นี้!
