12 กุมภาพันธ์ 2564 ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ขอต้อนรับเข้าสู่ “เทศกาลวันตรุษจีน” อย่างเป็นทางการ ช่วงนี้มองไปทางไหนก็มีแต่สีแดงไปซะหมด และเมื่อ 2-3 วันก่อนจวบมาจนถึงเวลานี้กระแสของชุด “กี่เพ้า” คอสตูมประจำเทศกาลก็มีให้เห็นกันเต็มโลกโซเชียลไปหมด โดยเฉพาะเหล่าสาว ๆ ที่จัดหนักจัดเต็มเปลี่ยนลุคเป็นสาวจีนร่วมสมัย ต่างพากันสวมใส่ ชุดกี่เพ้า หลากสี หลายลาย จนหนุ่ม ๆ ตามกดไลค์กันแทบไม่ทัน
แล้วรู้กันหรือไม่ ว่าชุดกี่เพ้าที่ใส่กันอยู่จนเป็นเทรนด์แฟชั่นนั้น แท้จริงแล้วเคยเป็นเครื่องแต่งกายสำหรับคนชนชั้นตระกูลสูงของวัฒนธรรมจีนมาก่อน รวมถึงลวดลายและสีของกี่เพ้า ก็ยังมีความหมายที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ฉะนั้นเพื่อให้เฮงต้อนรับวันปีใหม่จีนในครั้งนี้ Ruay 365 จะพาไปทำความรู้จักกับ “กี่เพ้า” สัญลักษณ์เทศกาลวันตรุษจีน ให้รู้ชัด รู้จริง จะได้เลือกใส่แต่งตัวกันได้แบบปัง ๆ
สารบัญ
Toggleประวัติ กี่เพ้า
ชุดกี่เพ้าเกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ.1644-1911) ตั้งแต่สมัยที่แมนจูปกครองประเทศจีน เป็นที่รู้จักกันดีในเครื่องแต่งกายของจีน โดย “กี่เพ้า” หรือเรียกอีกอย่างว่า “ฉีผ่าว” มีความหมายว่า ชุดเสื้อคลุมยาว คำว่า “ฉี” แปลว่า ธง “ผาว” แปลว่า ชุดเสื้อคลุมยาว ในช่วงสมัยนั้นกี่เพ้าเป็นเครื่องแต่งกายสำหรับพวกชั้นตระกูลสูง จึงต้องใช้ความพิถีพิถัน ทั้งเนื้อผ้า และฝีมือตัดเย็บ ต้องละเอียดประณีต
ปกติแล้วกี่เพ้าเป็นเดรสคอสูงทรงปิดที่มีชายกระโปรงผ่าขึ้นด้านข้าง และเดิมทีกี่เพ้าเป็นชุดเดรสที่ถูกตัดแต่งมาให้สวมใส่แบบหลวม ๆ ชุดจะปกคลุมร่างกายส่วนใหญ่ของผู้สวมใส่ เผยให้เห็นเฉพาะส่วน เช่น นิ้วมือและปลายนิ้วเท้าเท่านั้น นอกจากนี้ชุดยังช่วยปกปิดรูปร่างของผู้สวมใส่โดยไม่คำนึงถึงอายุด้วย
แต่ในช่วงทศวรรษที่ 1920 และ 1930 ช่วงนี้เป็นช่วงที่สังคมจีนและสตรีชั้นสูงในเซี่ยงไฮ้เริ่มหันมาสวมใส่กี่เพ้าเพื่อความทันสมัยและสวยงามมากขึ้น ส่งผลทำให้ชุดกี่เพ้าเริ่มมีลักษณะที่หลากหลาย มีทั้งแบบสั้น แบบยาว มีปกและไม่มีปก และก็ยังถูกพัฒนาต่อไปอีกตามแฟชั่นของโลกตะวันตก เช่น ทำปกสูง และ เป็นเดรสแขนกุด หรือ แขนเป็นทรงกระดิ่ง
จุดเปลี่ยนของชุดกี่เพ้าที่ทำให้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกนั่นมาจากเหล่า ดารา คนดังและนักการเมืองในเซี่ยงไฮ้สมัยปี 1920-1940 โดยอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของจีนเป็นบุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนแฟชั่นชุดกี่เพ้านี้ ทำให้หลังจากนั้นไม่นานผู้คนต่างแสวงหาสไตล์การแต่งกายที่ทันสมัยมากขึ้น และเปลี่ยนชุดกี่เพ้าแบบเก่าให้เข้ากับรสนิยมใหม่ ๆ ที่มีการปรับชุดกี่เพ้าให้รัดรูป ซึ่งแตกต่างจากกี่เพ้าแบบดั้งเดิม
เมื่อแฟชั่นตะวันตกพัฒนาไปเรื่อย ๆ การออกแบบชุดกี่เพ้าก็เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย และเริ่มถูกผสมผสานกับเสื้อผ้าที่ใส่สบายมากขึ้น เช่น เริ่มใส่คู่กับ เสื้อ กางเกงยีนส์ หรือชุดสูท กระโปรงต่าง ๆ อย่างที่เราพบเห็นในปัจจุบันนั่นเอง
ชุดกี่เพ้า ใส่ตอนไหน ทำไมต้องใส่ชุดกี่เพ้าในวันตรุษจีน
สมัยก่อนการสวมใส่ชุด กี่เพ้า จะเป็นการแสดงถึงชนชั้นทางสังคม และเป็นสัญลักษณ์ของสตรีของสังคมชั้นสูงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เป็นชุดที่ใส่สำหรับโอกาสพิเศษในวัฒนธรรมจีนมากมาย เช่น
- ใช้สวมใส่ในวันปีใหม่ของจีน หรือวันตรุษจีน
- สวมใส่ในงานแต่งงาน
- สวมใส่ในพิธีชงชา
ขณะเดียวกันในปัจจุบัน การใส่ชุดกี่เพ้า เป็นสิ่งทุกคนสามารถทำได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงอายุ เพศ หรือชนชั้น เพียงแต่ว่านิยมใส่กันในช่วงเทศกาลตรุษจีน และ พิธีแต่งงานแบบจีน เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ และเพิ่มความสวยงามให้กับเทศกาลหรือพิธีมากยิ่งขึ้น
การเลือกใส่ชุดกี่เพ้า ใส่ชุดกี่เพ้ายังไงให้สวย
ยุคนี้ชุดกี่เพ้ามีให้เลือกมากมาก หลายสี หลายรูปแบบ และยังมาพร้อมกับการออกแบบที่แตกต่างกันเพื่อให้ดูเหมาะสมกับงานต่าง ๆ ฉะนั้น หากอยาก ใส่ชุดกี่เพ้ายังไงให้สวย ให้ดูเหมาะสม ก่อนใส่ชุดกี่เพ้าต้องลองจนแน่ใจว่าไม่มีส่วนไหนตึงเปรี๊ยะเกินไป ส่วนไหนต้องปรับขนาดก็แก้ไขให้เรียบร้อยเข้าไว้ โดย วิธีเลือกชุดกี่เพ้าที่ดีที่สุด ได้แก่
พิจารณารูปร่าง
เพราะไม่ใช่ว่าชุดทั้งหมดจะเข้ากับรูปร่างได้ทุกประเภท การเลือกชุดที่เหมาะกับรูปร่างของคุณจะช่วยเพิ่มคุณสมบัติที่ดีที่สุดของร่างกายคุณและปกปิดส่วนที่บกพร่องได้ ซึ่งสามารถพิจารณาชุดได้จาก 4 รูปร่างของผู้หญิงที่พบบ่อยที่สุด ดังนี้
- รูปทรงสตรอเบอร์รี่ ผู้หญิงที่มีรูปร่างสตรอเบอร์รี่มีไหล่และหลังกว้างแต่สะโพกและขาเรียว ควรหลีกเลี่ยงเดรสที่เพิ่มความเทอะทะที่ด้านบน และเลือกใช้เสื้อคอลึกกระโปรงบาน หรือกระโปรงที่ฟูขึ้นพร้อมกับชายเสื้อแบบร่อง
- รูปทรงลูกแพร์ ผู้หญิงที่มีรูปร่างคล้ายลูกแพร์ที่มีสะโพกกว้างและหน้าอกเล็ก ควรเลือกชุดที่เน้นเอว เช่น เดรสทรงเอที่มีแขนเสื้อขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มมิติให้กับส่วนบนของร่างกาย
- รูปทรงแอปเปิ้ล ผู้หญิงที่มีรูปร่างคล้ายลูกแอปเปิ้ล จะมีขาเรียวและรอบเอวที่ค่อนข้างใหญ่ อาจเลือกชุดที่จะปกปิดบริเวณเอวด้วยเข็มขัดและผ้าคาดเอว เดรสทรงเอไลน์เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้หญิงรูปร่างลักษณะนี้
- รูปทรงสี่เหลี่ยม หมายถึงรูปร่างที่มีส่วนเว้าโค้งน้อยหรือไม่มีเลย หากคุณมีรูปร่างเป็นรูปสี่เหลี่ยม คุณควรสวมชุดที่ตัดไหล่คู่กับเข็มขัดเพื่อดึงดูดความสนใจไปที่หน้าอกเพื่อสร้างรูปร่างที่โค้งเว้า
- รูปทรงนาฬิกาทราย หมายถึง คนที่มีสะโพก ไหล่ที่มีความกว้างเท่ากัน โดยมีรอบเอวที่บางกว่าเล็กน้อย คุณสามารถใส่ชุดกี่เพ้าได้เกือบทุกประเภท แต่แนะนำให้สวมใส่ชุดที่มีสายคาดเพื่อเน้นช่วงเอวให้ชัดขึ้น
ขนาด
หากคุณซื้อเสื้อผ้าที่ร้านคุณสามารถลองสวมเสื้อผ้าได้เพื่อให้ได้ขนาดที่เหมาะสม สามารถเลือกให้เข้ากับวาระและโอกาสได้ โดยเฉพาะการใส่ชุด กี่เพ้า เพื่อเข้าพบปะญาติผู้ใหญ่ยิ่งต้องพิจารณาขนาดเป็นพิเศษ ไม่ควรรัดรูปจนเกินไป และไม่ควรหลวมจนเกินไป
อย่างไรก็ตามหากคุณ ซื้อชุดกี่เพ้า ออนไลน์ แนะนำให้พิจารณาไซส์ตามแผนภูมิขนาด ไม่ควรเดา Size เสื้อเอาเองจากความเคยชิน เนื่องจากร้านค้าแต่ละร้านก็จะมีรูปแบบการตัดเย็บ และขนาดที่มาตรฐานไม่เท่ากัน
การออกแบบ
การออกแบบเหล่านี้เกี่ยวข้องกับรูปร่าง ขนาด และความยาวของชุด เช่นเดียวกันการใส่ชุดกี่เพ้า เพื่อเข้าพบปะญาติผู้ใหญ่ยิ่งต้องพิจารณาขนาดเป็นพิเศษ ไม่เลือกชุดที่สั้นจนเกินไป โดยประเภทของการออกแบบชุดกี่เพ้าที่นิยม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ชุดกี่เพ้าสั้น เป็นชุดที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีความสวยงามและดูทันสมัย เหมาะมากสำหรับคนที่มีขายาว เรียวสวย โดยชุดกี่เพ้าแบบสั้นมักจะออกแบบมาให้มีแขนเสื้อที่สั้นด้วยเพื่อช่วยให้ชุดดูสมส่วนมากขึ้น
- ชุดกี่เพ้ายาว เป็นชุดที่คงความสวยงามในแบบดั้งเดิมเอาไว้ โดยแขนเสื้อจะมีทั้งแบบยาวและแบบสั้น มีจุดเด่นตรงที่ชายกระโปรงจะผ่าสูงขึ้นที่ด้านข้างเพื่อให้เดินได้ง่าย หากใครต้องการชุดที่เรียบร้อยหน่อย Ruay ขอแนะนำชุดกี่เพ้าแบบยาว
ส่วนใครที่ไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง หรือไม่ชอบใส่ชุดเดรส ก็สามารถเลือกสวมใส่เป็น เสื้อตรุษจีน หรือ เสื้อกี่เพ้า คู่กับกางเกงหรือกระโปรงแทนก็สวยเก๋ไปอีกแบบ
สีกี่เพ้า ความหมาย
แน่นอนว่าตามความเชื่อของคนจีน และคนไทยเชื้อสายจีน จะถือว่าการใส่เสื้อผ้าสีสดๆ หรือ สีมงคล จะเป็นมงคลกับชีวิต ซึ่งสีที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมจีนมากในวันตรุษจีน หรือเรียกกันว่า สีนำโชค หลัก ๆ แล้ว ชุดกี่เพ้าที่นิยมกันมี 5 สี โดยแต่ละสีมีความหมายที่แตกต่าง ดังต่อไปนี้
- สีแดง เป็นสีที่นิยมมากที่สุด แสดงถึงความสุข ความสวยงาม ความมีชีวิตชีวา ความโชคดี และความสำเร็จ
- สีทอง หรือ สีเหลือง หมายถึง ชีวิตความเป็นอยู่ ความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งจะสังเกต ได้ว่ากษัตริย์จีนมักจะแต่งองค์ด้วยชุดสีเหลือ และมีสีทองเป็นส่วนประกอบ เพื่อแสดงถึงความบริบูรณ์ พลังแห่งความหวัง และความมั่นคง
- สีชมพู คือ ความสดใสบริสุทธิ์ของวัยสาว ความรักอันบริสุทธ์ ความเบิกบาน
- สีเขียว เป็นสีแห่งความมั่งคั่ง ความอุดมสมบูรณ์ ความหวัง ความสามัคคีและการเติบโต อีกทั้งยังแสดงถึงความบริสุทธิ์และความสะอาดอีกด้วย
ความหมายของลายชุดกี่เพ้า
สิ่งสำคัญที่คุณต้องพิจารณาก็คือ กี่เพ้าแต่ละตัวจะมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลวดลายของ สัตว์มงคล หรือ ดอกไม้มงคล อยู่แล้ว เช่น
- ลวดลายมังกร นำมาซึ่งอายุยืนยาว ความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภวาสนา
- ลายหงส์ ความยิ่งใหญ่ เปี่ยมไปด้วยอำนาจ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิง เพราะมีรูปร่างสวยงาม มีความอ่อนหวาน
- ดอกโบตั๋น เป็นสัญลักษณ์แห่งความสง่างาม ความเด่นความเป็นเลิศทั้งทางด้านความงามและความสามารถ อีกทั้งยังหมายถึง ดอกแห่งความร่ำรวย มียศศักดิ์ เรียกได้ว่าเป็น สัญลักษณ์ของความโชคดี สำหรับผู้หญิง
สรุป
ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ไม่ว่าเราจะไปที่ไหนหรือเล่นสื่อออนไลน์อะไรก็มักจะเห็นคนใส่ชุด “กี่เพ้า” ตลอด แต่ไม่เพียงแค่ในวันตรุษจีนเท่านั้น กี่เพ้ายังสามารถใส่ได้กับโอกาสพิเศษพิเศษในวัฒนธรรมจีนมากมาย
เอาเป็นว่าใครที่อยาก ใส่ชุดกี่เพ้าให้สวย ใส่ชุดกี่เพ้าให้ปัง ก็ลองเอาเคล็ดลับในการเลือก สีกี่เพ้า และความหมายของลายชุดกี่เพ้า ที่ Ruay ได้แนะนำ ไปพิจารณากันดู เพื่อความสวยงามและความเป็นสิริมงคลตลอดปี สุดท้ายนี้ทางเราก็ขออวยพรให้ทุก ๆ คน คิดหวังสิ่งใดขอให้สมหวังสมปรารถนา มีแต่ความสุขและร่ำรวย สุขสันต์วันตรุษจีน
บทความแนะนำอื่นๆที่เกี่ยวข้อง