สายมูหลาย ๆ ท่านอาจจะงง ๆ กันว่า พระอรรธนารีศวร คือใคร ไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้สักเท่าไหร่ จะเป็นพระ หรือเป็นเทพ หรืออะไรกันเอ่ย… ครั้งแรกที่ได้ยินก็งงไม่ต่างกัน ดังนั้นจึงต้องไปค้นหากันสักหน่อย พอได้รู้ต้องร้องบอกเลยว่า…ใครได้บูชาไม่มีวันอับจนเรื่องเงินทอง ความสำเร็จ คู่ครอง ยิ่งสำหรับเพศที่สามแล้วด้วยถือว่าปัง..
อย่างแรกที่ต้องรู้กันก่อนเลยว่า พระอรรธนารีศวร นี่ไม่ใช่พระนะ!! แต่เป็นเทพของทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดูองค์หนึ่ง ในเมืองไทยยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักซึ่งเป็นเทพที่เป็นพระศิวะครึ่งหนึ่งพระนางปารวตีครึ่งหนึ่ง ตอนนี้คงอยากรู้แล้วสิว่าทำไมถึงครึ่ง ๆ กลาง ๆ งั้นไปดูที่มาที่ไป พร้อมวิธีการบูชาว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง
สารบัญ
Toggleตำนานที่มาของ พระอรรธนารีศวร
ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อมื่อแรกสร้างจักรวาลนั้น พระพรหมได้สร้างมนุษย์เพศชายเพียงเพศเดียว แต่เพศชายเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สามารถขยายเผ่าพันธุ์ในโลกได้ พระพรหมจึงได้ทำการบวงสรวง ทำให้ศิวะมหาเทพเสด็จลงมาแนะแนวทางแก้ไขปัญหา โดยมาในปางอรรธนารีศวร
ในรูปร่างของการรวมกันระหว่างพระศิวะและพระนางปารวตีผู้เป็นพระชายา โดยปรากฏเป็นชายครึ่งหญิงครึ่ง เมื่อพระพรหมได้ยลโฉมของอรรธนารีศวรแล้วก็ถึงบางอ้อ เข้าใจในกำลังเสริมของเพศคู่ อันจะนำมาซึ่งความสมบูรณ์และการถือกำเนิดของชีวิตใหม่
ความหมายของ ชายครึ่งหญิงครึ่ง
ผู้รู้ได้ตีความหมายของลักษณะองค์เทพดังกล่าวออกมาหลัก ๆ ได้ดังนี้
ในรูปร่างของการรวมกันระหว่างพระศิวะและพระนางปารวตีผู้เป็นพระชายา โดยปรากฏเป็นชายครึ่งหญิงครึ่ง แสดงให้เห็นว่าเทพทั้งสองพระองค์เป็นองค์เดียวกัน หรือเป็นการผสมผสานกันของพลังแห่งความเป็นชายและความเป็นหญิงในจักรวาล ซึ่งเป็นรากฐานของการกำเนิดสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ตามธรรมชาติ
อีกนัยหนึ่งยังเป็นการแสดงถึงการอยู่ร่วมกันของคู่ตรงข้าม เช่น ชายกับหญิง พ่อกับแม่ คล่องแคล่ว และเฉื่อยชา ทำลายและสร้าง เป็นต้น รูปแสดงของฝ่ายศิวะเกี่ยวข้องกับโลกแห่งจิตและวิญญาณ
เนื่องจากพระองค์ตั้งมั่นอยู่กับการบำเพ็ญโยคะ ส่วนฝ่ายพระนางปารวตีเป็นโลกแห่งวัตถุ เนื่องจากเป็นสตรีที่ทำให้มหาเทพหลงใหล และแต่งงานในที่สุด ซึ่งทั้งสองโลกสามารถประนีประนอมและอยู่ด้วยกันได้อย่างพอดิบพอดีในปางอรรธนารีศวร
หรืออีกนัยหนึ่งตามประเพณีของอินเดียพระอรรธนารีศวร ที่หากมองดูเผินๆ เหมือนชายครึ่ง-หญิงครึ่งอย่างเท่าเทียมกัน แต่การที่ชายอยู่ทางด้านขวาและหญิงอยู่ทางด้านซ้ายนั้น มีผู้ตีความว่านี่เป็นการซ่อนความหมายลึกๆ ว่า “ชายใหญ่กว่าหญิง”
เพราะในวัฒนธรรมอินเดียถือว่าด้านขวาเป็นด้านที่เหนือกว่าด้านซ้ายแสดงถึงการที่ฝ่ายหญิงยอมจำนนต่อฝ่ายชาย อย่างที่ภรรยาต้องเป็นผู้ประพฤติตนตามสามีตามความเชื่อของศาสนาฮินดู
นามว่า อรรธนารีศวร มีที่มาอย่างไร
เมื่อพระศิวะที่รวมร่างกับพระนางปารวตีนี้ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า อรรธนารีศวร (अर्धनारीश्वर) ซึ่งมาจากคำ 3 คำรวมกันคือ
- อรรธ (अर्ध) แปลว่า ครึ่ง (จำนวน), กึ่งหนึ่ง, ทวิเพศ
- นารี (नारी) แปลว่า นาง, สตรี
- อิศวร (ईश्वर) แปลว่า ผู้เป็นใหญ่, พระผู้เป็นเจ้า
ดังนั้นคำนี้จึงหมายถึง เทพเจ้าผู้มีร่างครึ่งหนึ่งเป็นสตรี (พระนางปารวตี)กับพระอิศวร (พระศิวะ) นั่นเอง และยังมีการเรียกอีกอย่างว่า อรรถนารีนเรศวร (अर्धनारीनरेश्वर) โดยคำว่า นเรศวร นั้นก็มาจากคำว่า “นร” ที่แปลว่า มนุษย์หรือผู้ชาย กับคำว่าอีศวร เพิ่มเข้าไปนั่นเอง แล้วบางครั้งก็อาจจะเรียกปางนี้ว่า อรรธนระ อรรธนารี อิศวร (अर्ध नर अर्ध नारी ईश्वर) ก็มี
ทำไมถึงเป็นเทวะ-เทวี ของเพศที่สาม
นั่นเพราะว่าในโลกยุคใหม่ที่มีความหลากหลายทางเพศ สามารถที่จะเปิดเผยกันได้ดังนั้น กลุ่มคนเพศที่สาม (Hijra) ในอินเดียจึงรับเอา “พระอรรธนารีศวร” เป็นเทพอุปถัมภ์ของตนองค์หนึ่ง ด้วยถือว่ามีความ “กำกวม” ทางเพศ คือเป็นทั้งหญิงและชายในร่างเดียวกัน เหมือนกันพวกเธอๆ ซึ่งร่างเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง ซึ่งในประเทศไทยเองก็ได้รับกระแสนี้มาด้วยเช่นกัน
เครื่องบูชา
การบูชานั้นสามารถที่จะทำได้เหมือนกับการบูชาองค์เทพอื่น ๆ ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูได้เลย
- ดอกไม้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกมะลิ ดาวเรือง ดอกบัว ดอกโมก กำยานและธูป ใช้จุดได้ทุกกลิ่น
- อาหารที่ถวาย ควรเป็นขนมหวาน รสอ่อน ไม่ปรุงรสมากเกิน ไม่เค็มจัด ไม่ผสมสี เน้นธรรมชาติให้มากที่สุด
- ผลไม้ ถวายได้ทุกชนิด ควรถวายผลไม้ที่มีกลิ่นหอมโชยอ่อนๆ รสชาติอ่อนๆ ไม่เปรี้ยวจัด ไม่หวานจัด หรือขมจัดเกินไป ผลไม้ไม่ควรปอกเป็นคำๆ ควรถวายทั้งเปลือก หรือเป็นลูกๆ เช่น กล้วยทั้งหวี (แต่มะพร้าวจะต้องผ่าหรือเทใส่แก้ว)
- สามารถถวาย ธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวสาร ข้าวหุง เมล็ดถั่วต่างๆ งาขาว งาดำ ลูกเดือย เผือก มัน สมุนไพร เมล็ดพริกไทย ผักชี ใบกระเพรา พืชผักสดต่างๆ (ของทุกอย่างจะสุกหรือไม่สุกก็ได้)
- ขนม เช่นเดียวกับเทพทุกองค์ คือ ถวายขนมรสหวาน มีกลิ่นหอม ห้ามถวายเนื้อสัตว์เด็ดขาด
คาถาบูชา
สำหรับการสวดแบบพราหมณ์-ฮินดู ต้องสวดคาถาบูชาพระพิฆเนศก่อนทุกครั้ง ถึงค่อยสวดคาถาบูชาพระอรรธนารีศวร เมื่อสวดบูชาพระพิฆเนศเสร็จเรียบร้อยแล้วให้สวดบทบูชาของพระศิวะ และบทสวดของพระแม่อุมา ดังต่อไปนี้ได้เลย
คาถาบูชาพระศิวะ
โอม นะมัช ศิวายะ นะมะฮา
โอม อิศราเม ศิวะเทวัญจะ ภะวันตูเม
ทุติยัมปิ อิศราเม ศิวะเทวัญจะ ภะวันตูเม
ตะติยัมปิ อิศราเม ศิวะเทวัญจะ ภะวันตูเม
โอม กรรมปูระเคารัม กรุณาวะตารัม สัมสาระสารัม
ภุชะเคนทะระหารัม สะทะวะสันตัม
หฤทะยาระวินเท ภะวัมภะวานี สาหิตัม นะมามิ
คาถาบูชาพระศรีมหาอุมาเทวี
โอม ตัสสะ ปาระพะตี กาลีทุรคา ปิยังมะมะ
ทุติยัมปิ ตัสสะ ปาระพะตี กาลีทุรคา ปิยังมะมะ
ตะติยัมปิ ตัสสะ ปาระพะตี กาลีทุรคา ปิยังมะมะ
สรุป
ใครที่ผิดหวัง การเงินไม่คล่องมือ ดวงความรักย่ำแย แนะนำให้ไปกราบขอพรพระอรรธนารีศวร อานิสงส์ที่ได้บูชาท่านเชื่อว่าจะช่วยล้างเคราะห์กรรมให้ดวงชะตาดีขึ้นได้ สำหรับที่กรุงเทพ ฯ สามารถที่จะไปกราบไหว้ขอพรได้ที่ ซอยสุขุมวิท 23 ตรงหน้าตึกจัสมิน จะมีศาลพระอรรธนารีศวร เป็นเทวรูปปางครึ่งชายครึ่งหญิง
สุดท้ายแล้วหากมีการบนบานหรือสัญญาว่าจะทำอะไรถ้าสำเร็จ ห้ามลืมเลยนะคะ ให้กลับมาทำตามสิ่งที่บนบาน ดังนั้นควรบนบานในสิ่งที่ไม่เกินตัวนะคะ ruay แน่ๆ