ชมความสวยงามของเมืองพุทธ อย่าง ประเทศไทย กันที่ โบสถ์สีน้ำเงิน ณ วัดปากน้ำแขมหนู จังหวัดจันทบุรี วัดแห่งนี้ขึ้นชื่อมากๆ ในเรื่องของความสวยงามอลังการ ใครที่ได้ไปเที่ยวจังหวัดจันทบุรี ไม่มีใครพลาดมายังสถานที่แห่งนี้ เพราะนอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ยังได้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้ก่อนกลับบ้านอีกด้วย
นับได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดจันทบุรี มีมุมสวยๆ ไว้ถ่ายรูปมากมาย เป็นโบสถ์ที่มีความงดงามวิจิตรตระการตา พร้อมด้วยลายโบสถ์สลับสีน้ำเงินและสีขาว ซึ่งแตกต่างจากโบสถ์วัดทั่วไป ทำให้เป็นที่ตื่นตาตื่นใจ สำหรับผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักวัดแห่งนี้ เรามาทำความรู้จักไปพร้อมกันกับ Ruay เลย
สารบัญ
Toggleประวัติวัดปากน้ำแขมหนู
วัดปากน้ำแขมหนู เดิมที ได้สร้างขึ้น เพื่อเป็นที่พักสำหรับสงฆ์ ในปี พ.ศ. 2456 โดยมี นายปั่น รื่นจิต ชาวบ้านวังวน เป็นคนริเริ่มก่อสร้างที่พักสงฆ์ ให้เป็นที่พักชั่วคราว และเริ่มมีพระเข้ามาจำพรรษา ในปี พ.ศ. 2457 มีพระอาจารย์เครื่อง เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ในตอนแรกๆ ก็มีพระสงฆ์อาศัยอยู่เพียง 5 – 6 รูปเท่านั้น ต่อมา ได้ทำการนิมนต์จากวัดอื่นมาจำพรรษาที่นี่ชั่วคราว ส่วนใหญ่แล้ว พระผู้รักษาการเจ้าอาวาส ก็มักจะนิมนต์มาจากวัดอื่นๆ เช่นกัน ทำให้อยู่รักษาการณ์ได้ไม่นาน
ต่อมา ได้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปแรก นั่นก็คือ พระอธิการผล ซึ่งท่านได้ทำการบูรณาการวัด เปลี่ยนมุงเป็นสังกะสี และ เริ่มมีพระเข้ามาจำพรรษากันมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้น ก็ได้มีการก่อสร้างครั้งใหญ่ ในสมัยของ พระครูยม ฐานกโร ซึ่งรักษาการณ์ตำแหน่งเจ้าอาวาส ในปี พ.ศ. 2479 – พ.ศ. 2499 วัดได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากที่เคยทำเป็นเพียงที่พักสงฆ์ชั่วคราว ก็ได้กลายมาเป็นกุฏิถาวร มีการตั้งเสาคอนกรีต ปูหลังคามุงด้วยกระเบื้องซีเมนต์ ฝากระดาน และ เริ่มการสร้างอุโบสถแบบถาวรด้วย
ในปี พ.ศ. 2493 พระครูยม ฐานกโร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น ได้ทำการสร้างอุโบสถแบบถาวร และ สร้างเสร็จ ในปี พ.ศ. 2499 เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 200,000 บาท มีพิธีฉลองอุโบสถ ในวันที่ 8 – 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 และยังเป็นสมัยของ พระปลัดเฉวียง ปญญาปสุโต เป็นเจ้าอาวาส ก็ได้สร้างกำแพงแก้ว เสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2505 รวมค่าก่อสร้างทั้งหมด 39,548 บาท ปัจจุบัน เจ้าอาวาสของวัดปากน้ำแขมหนู ก็คือ พระครูวิกรมสังฆกิจ
‘โบสถ์สีน้ำเงิน’ โบสถ์เซรามิก ทนน้ำเค็ม แห่งเดียวในโลก
โบสถ์สีน้ำเงิน หรือ โบสถ์เซรามิก ได้สร้างขึ้นมา เนื่องจาก พื้นที่วัดปากน้ำแขมหนู อยู่ติดกับทะเล ทำให้พระอุโบสถถูกน้ำเค็มกัดกร่อน ลุกลามไปจนถึงหลังคาโบสถ์ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ที่มีน้ำรั่วลงมา จนไม่สามารถประกอบกิจสังฆกรรมของสงฆ์ได้
ในปี พ.ศ. 2534 มีการลงมติกันกับชาวบ้านให้มีการรื้อโบสถ์หลังเก่า และ สร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้นมาแทน โดยนำเอารูปแบบพิมพ์เขียวจาก วัดสระบาป มาเป็นตัวอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้โบสถ์หลังใหม่ชำรุดทรุดโทรมเร็ว ได้มีการเดินทางไปดูรูปแบบการสร้างโบสถ์ของวัดต่างๆ
จนกระทั่ง ได้ไปพบกับวัดที่ใช้เซรามิกมาประดับ เห็นว่า มีความมันเงา ทนทาน แข็งแรง จึงได้นำแนวคิดนี้มา ใช้เซรามิกเคลือบชั้นปูนพระอุโบสถ เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของน้ำเค็มจากทะเล และ ยังทำการประสานกับโรงงานรับเหมา ให้ผสมสีลงในชิ้นงาน จะได้นำมาปิดเคลือบผนังปูน รวมไปถึงชิ้นส่วนลวดลายต่างๆ ของโบสถ์ทั้งหลัง ช่วยลดเวลาในการก่อสร้าง และ ยังไม่ต้องทาสีซ้ำบ่อยๆ เป็นการลดการเสื่อมสภาพหรือทำให้สีไม่จืดจางลงอีกด้วย
หลายคนมักจะสงสัยว่า ทำไมจึงเลือกประดับลวดลายลงบนพื้นของโบสถ์สีน้ำเงิน นั่นก็เพราะว่า ภาชนะลายคราม ที่ทำจากเซรามิกโบราณ มักจะใช้เพียง 2 สีหลักๆได้แก่ สีน้ำขาว ที่เป็นพื้นตัดกับ สีน้ำเงิน เมื่อลองนำมาประยุกต์ใช้กับโบสถ์ ก็พบว่า มีความสวยงาม โดดเด่น ไม่แพ้โบสถ์แห่งใดเลย
การเดินทางไปวัดปากน้ำแขมหนู
ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี ประมาณ 28 กิโลเมตร โดยสามารถเลือกได้ 3 เส้นทาง ดังนี้
- จากถนนสุขุมวิท จันทบุรี – กรุงเทพฯ สามารถมาตามทาง ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต เลียบหาดเจ้าหลาว ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่
- หรือจาก ถนนหมายเลข 4036 มาถึง สะพานเฉลิมเกียรติ
- หรือจาก สะพานปากน้ำแขมหนู ให้ลงจากสะพาน แล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะถึงวัดปากน้ำแขมหนู
ข้อมูลทั่วไปของวัดปากน้ำแขมหนู
ที่ตั้ง : ปากน้ำแขมหนู หมู่ที่ 9 ทางหลวงชนบท 4002 ตำบล ตะกาดเง้า อำเภอท่าใหม่ จันทบุรี 22120
เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 16.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 08 – 1781 – 8075
Facebook: วัด ปากน้ำแขมหนู
รูปแบบการพนันออนไลน์ที่เสมือนจริง เป็นที่นิยมมากในขณะนี้ เพราะสามารถเล่นได้ทั้งในคอมพิวเตอร์และมือถือ สะดวกสบายต่อผู้ใช้งาน
เว็บพนันออนไลน์ใหม่ที่มาแรงที่สุด เนื่องจากเว็บไซต์มีความรวดเร็วในการฝาก-ถอน และให้อัตราจ่ายที่สุดที่สุดในขณะนี้
สรุป
เที่ยววัดสวย ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งรูปเก๋ๆ ต้องไปที่ วัดปากน้ำแขมหนู จังหวัดจันทบุรี ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่เลื่องชื่ออย่าง อุโบสถ์สีน้ำเงิน ที่มีรูปลักษณ์แตกต่างจากโบสถ์ทั่วไป ใช้การตกแต่งด้วยสีน้ำเงินและสีขาวเท่านั้น มีลวดลายคล้ายๆ กับภาชนะลายคราม ที่ทำจากเซรามิกโบราณ อีกทั้ง โบสถ์แห่งนี้ ยังเป็นโบสถ์ที่ทนน้ำเค็ม กันสนิมแห่งเดียวของโลกอีกด้วย ส่วนใครที่เป็นสายถ่ายรูป สายเช็คอิน Ruay แนะนำให้ใส่ชุดสีขาวมาถ่ายรูป เพราะจะเข้ากับสถานที่มากๆ
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Come with now : กินเที่ยวเล่น
บทความแนะนำ
- เขาคิชฌกูฏ เขาศักดิ์สิทธิ์ที่มีรอยพระพุทธบาท
- วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ที่เที่ยวเหมาะหาเลขในสิงห์บุรี
- วิหารหลวงพ่อดำ วัดช่องแสมสาร วัดสวยวิวทะเล ที่ ชลบุรี
- เที่ยว วัดถ้ำเสือ พิชิตบันได 1,237 ขั้น ชมวิวมุมสูง จังหวัดกระบี่
- วัดศิมาลัยทรงธรรม วัดสวยที่ปากช่อง สุดยอด ประติมากรรมพุทธศิลป์ Unseen เขาใหญ่!