‘ฝนจ๋า ทำไมเธอถึงตก ตกได้ทั้งวี่ทั้งวันจริงๆ จะไปไหนก็ไปไม่ได้ เพราะเธอเลยจริงๆ’ คำๆ นี้ คงเป็นคำที่คนทั่วไปมักอุทานออกมาบ่อยครั้ง เมื่อเจอกับฝนตก แต่คงไม่ใช่กับสายมู เพราะพวกเขามี พระคาถาห้ามฝน และวิธีที่ช่วยให้ฝนหยุดตกนะซิ มาดูกันดีกว่าว่า จะมีคาถาห้ามฝนจากที่ไหนบ้าง ที่สวดแล้วช่วยให้ฝนหยุดตกได้บ้าง ..
สารบัญ
Toggleคาถาหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท
นะ หันตะวา แตสัง อุปัต ตะเว
เคล็ดลับ : มี “ผ้ายันต์พัดโบก” ที่เอาไว้ผูกแขนหรือโบกประกอบการท่องคาถาไปด้วย แต่ถ้าใครไม่มี ระหว่างที่ท่อง ก็ระลึกถึงคุณของหลวงพ่อกวยไปด้วยทุกครั้ง
คาถาพระธรรมราช
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ทะ ทะ ทะ โร โร โร อะ อะ อะ สะ สะ สะ โส โส โส โณ โณ โณ นะโมพุทธายะ
เคล็ดลับ : สวดทั้งหมด 108 จบ พร้อมภาวนาด้วยการชักลูกประคำไปพร้อมกันด้วย
คาถาสมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครู ขรัวอีโต้
สิทธิ พุทธะ จะ อุตตะมะ สิทธิ ธัมมา เทวะ สังฆา สัพพะ มหาวิชา คาถา สิทธิสาวัง พุทธัง ประสิทธิเม ธัมมัง ประสิทธิเม สังฆัง ประสิทธิเม สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครู ประสิทธิเม พระขรัวอีโต้ประสิทธิเม
เคล็ดลับ : ตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วยบทไตรสรณาคมน์ และท่องคาถาห้ามฝนข้างต้นตามกำลังวัน ดังนี้ วันอาทิตย์ 6 จบ วันจันทร์ 15 จบ วันอังคาร 8 จบ วันพุธกลางวัน 17 จบ วันพุธกลางคืน 12 จบ วันพฤหัสบดี 19 จบ วันศุกร์ 21 จบ และวันเสาร์ 10 จบ
วิธีการไล่ฝนในรูปแบบต่างๆ
นอกจาก พระคาถาห้ามฝน ที่ได้กล่าวมาทั้งหมด 3 คาถานั้น ยังมีวิธีการไล่ฝนแบบอื่นๆ อีกด้วย แล้วแต่ความสะดวกของผู้ทำพิธี
ปักตะไคร้
การ ปักตะไคร้ ไล่ฝน ถือเป็นวิธีการยอดฮิตสำหรับคนไทยเลยก็ว่าได้ เป็นพิธีไล่ฝนที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างเนิ่นนาน วิธีการก็คือ เลือกสาวบริสุทธิ์ ที่ยังไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับชายใด ต้องไม่อยู่ในช่วงที่มีประจำเดือน และเป็นผู้ที่รักษาศีลอยู่เสมอ ให้มาทำการอธิษฐานขอให้ฝนหยุด หลังจากนั้น ก็ทำการปักตะไคร้กลับปลายลงพื้นดิน
ปลูกจักไคร
การปลูกจักไคร้ (ตะไคร้) คล้ายกับการปักตะไคร้ แต่การปลูกจักไคร้นั้น จะให้แม่หม้ายผัวตาย เป็นผู้ปลูกตะไคร้ในที่โล่งแจ้ง ด้วยการเอาส่วนปลายลง เอาส่วนโคนชี้ขึ้น และยังมีความเชื่ออีกว่า หากอยากให้ได้ผลดีกว่านั้น จะต้องเปลื้องเสื้อผ้าออกให้หมด และห้ามอาบน้ำเป็นอันขาด ในระหว่างที่ยังไม่อยากให้ฝนตก
ต๋ามเตียน
ต๋ามเตียน หมายถึง “จุดเทียน” พิธีไล่ฝนลักษณะนี้ จะใช้วิธีการลงยันต์ “ฟ้าฟีก” ในแผ่นกระดาษสา แล้วนำแผ่นยันต์มาม้วนกับไส้เทียน แล้วนำเทียนไปจุดกลางแจ้งขณะฝนใกล้จะตกหรือฝนเริ่มตก ทั้งนี้ผู้ประกอบพิธีต้องนั่งบริกรรมคาถา “โอม วะ วะ มหาเมฆะ วัง วะ” ตลอดระยะเวลา เพื่อไม่ให้ฝนตก
ห้อยจ๊อน ฟ้อนป้าก
ห้อยจ๊อน ฟ้อนปาก เป็นการนำถ้วย ชาม กะละมัง และช้อนขึ้นไปแขวนส่วนบนของประตูบ้าน เมื่อฝนฟ้าคะนอง พายุเข้า สิ่งที่แขวนไว้จะถูกลมพัดกระทบกันเสียงดัง ในเวลาเดียวกัน เจ้าของบ้านก็จะถือ “ป้าก”(จวัก) ออกไปฟ้อนรำผสมโรงด้วย เพื่อให้เกิดอาเพศ แล้วลมฝนก็จะได้สงบลงโดยเร็ว
เผาดินขอ
การเผาดินขอ เป็นการนำกระเบื้องดินเผาที่ผ่านการใช้งานแล้วมาเผาไฟ โดยผู้ประกอบพิธีจะนำเอากระเบื้องมาลงยันต์จำนวนหลายแผ่น แล้ววางซ้อนทับกันบนเตาที่เตรียมไว้ แล้วค่อยติดไฟให้ลุกโชนและคอยเติมฟืนให้ไฟแรงอยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบพิธี จะต้องนั่งเฝ้าเตาไฟและเอามือทั้งสองอังไฟไว้ พร้อมกับบริกรรมคาถาว่า “พุทธัง สะระณัง ฝนวะ ธัมมัง สะระณัง ฝนวะ สังฆัง สะระณัง ฝนวะ” การบริกรรมคาถาจะบริกรรมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ และที่สำคัญห้ามผู้ประกอบพิธีอาบน้ำเด็ดขาดมิเช่นนั้นฝนจะตกลงมาทันที
ตั้งหม้อหนึ้งไหข้าว
“ตั้งหม้อหนึ้งไหเข้า” เป็นพิธีการที่น่าจะง่ายที่สุดแล้วในบรรดาวิธีการที่ได้กล่าวมา คือรีบกุลีกุจอผ่าฟืนใส่ในเตาไฟ ทำทีเป็นก่อไฟ แล้วยกอุปกรณ์การนึ่งข้าวเหนียวขึ้นตั้งบนเตาไฟ พร้อมปิดฝาไหให้เรียบร้อย แล้วนั่งเฝ้าทำทีเป็นผิงไฟบ้าง เติมฟืนและเป่าไฟเป็นระยะๆ เชื่อว่าเป็นการกระทำเพื่อกดดันไม่ให้เกิดลมฝน
วัวธนู
เครื่องรางที่ได้จากการสานให้เป็นรูปวัวที่เรียกว่า “วัวธนู” เมื่อสานแล้วปลุกเสกคาถาตามพิธี ก็สามารถห้ามลมฝนได้ หากโยนรูปวัวธนูนั้นลงในกองไฟ
ย่างแก๋นครก
เมื่อเราเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืด มีลางว่าฝนจะตก ให้ไปขโมยเอาแก๋นครก (ไม้ตีพริก หรือ สาก) ของแม่หม้ายผัวตายมาย่างเหนือกองถ่านไฟที่ร้อนระอุ พลิกกลับไปกลับมาเหมือนจะทำให้สุก เชื่อกันว่าถ้าทำอย่างนี้ จะทำให้เทวดาร้อนใจ ไม่บันดาลให้ฝนตก
แม่หม้ายออกปาก
ออกปาก คือ การลั่นวาจา ให้แม่หม้ายออกปากหรือลั่นวาจา มีสองวิธี กล่าวคือ
- วิธีแรก หากมีงาน แล้วมีท่าทีฝนตั้งเค้าจะตกลงมา ให้คนในงานกางร่มไปพบแม่หม้ายพร้อมกางร่มให้ แล้วขอให้แม่หม้ายกล่าวกับเทวดาฟ้าดินว่า “เออ ฝนเหย ถ้าฝนใคร่ตกเต๋มที จะตกบ่าเดี่ยวนี้ ก็ตกมาเต๊อะ ตกเจ้าแม่ตก ตกมานักๆ” จากนั้นให้กางร่มพาแม่หม้ายไปอยู่บริเวณงาน ฝนก็จะไม่ตก
- วิธีที่สอง คือ ให้แม่หม้ายนำตะกร้าตาห่าง ไปยืนกลางแจ้ง แล้วกล่าวดัง ๆ ว่า “เออ ฝนเหย ถ้าฝนใคร่ตกเต๋มที่ ก็ตกมาเต๊อะ ตกมาเต๋มก๋วยแก่นนี้เน้อ ตกนักๆ ถ้าตกบ่นัก ก็บ่ต้องตก” ลมฝนที่ตั้งเค้าอยู่ก็จะหายไป
แม่หม้ายตากผ้า
ในกรณีที่มีงานศพ ท้องฟ้าครึ้มฝน ท่านให้ไปขอให้แม่หม้ายมาทำพิธีตากผ้า โดยนำผ้าของผู้ตายไปตากบนหลังคา แล้วกล่าวว่า “เออ เทวบุตร เทวดา เจ้าฟ้า สายฝน บัดนี้ (เอ่ยชื่อผู้ตาย) ก็จะไปทางหน้าวัสองวันนี้แล้ว ผ้าก็ยังบ่แห้ง หาไรหามีผืนเดียวอี้ละ ขอเอ็นดูปั๋นแดดส่องลงมา หื้อผ้าแห้ง สักวันสองวันเต๊อะ” ทำอย่างนี้ฝนจะไม่ตกลงมา
สรุป
พระคาถาห้ามฝน อยู่คู่กับคนไทยมาเป็นเวลานาน เป็นพิธีทางไสยศาสตร์ ที่เห็นดังๆ และมีผู้พูดถึงมากที่สุดเกี่ยวกับการไล่ฝนก็คือ การ ปักตะไคร้ ที่ต้องใช้สาวบริสุทธิ์ในการทำพิธี การไล่ฝนนั้น ถือว่าสำคัญอย่างมาก สำหรับผู้ที่มีธุระต้องออกไปทำนอกบ้าน หรือผู้ที่ต้องการจัดงานที่ห้ามมีฝน พิธีไล่ฝน จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ท่านสมหวังตามดังที่ต้องการอย่างแน่นอน
ก่อนจากกันใครที่อยากอ่านบทความดีๆ เด็ดๆ ทั้งเรื่องความเชื่อ แรงศรัทธา ทำนายฝัน ดูดวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สูตรหวย สถิติหวย เลขเด็ด เราได้ทำการรวบรวม เรื่องดี เรื่องดัง เรื่องน่าสนใจ มาให้ทุกท่านไว้แล้วที่นี่ที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาหาเยอะแยะมากมาย มาพบกับพวกเราได้ในทุกวันที่ Ruay365.com ค่ะ