ปล่อยสัตว์ยังไงให้ได้บุญ

เผยวิธี ปล่อยสัตว์ยังไงให้ได้บุญ ช่วยเสริมบุญบารมี และนำสิ่งที่ไม่ดีออกให้พ้นไป

ปล่อยนก-ปล่อยปลา ทำบุญหรือทำบาป? การปล่อยนกปล่อยปลาเป็นการทำบุญแบบหนึ่งที่เรานิยมทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณจนมาถึงปัจจุบัน สำหรับการปล่อยปลา สัตว์น้ำต่าง ๆ และสัตว์ประเภทอื่น ๆ ที่เราได้ปล่อย ๆ กันอยู่นั้น รู้หรือไม่ว่าวิธีการ ปล่อยสัตว์ยังไงให้ได้บุญ ต้องทำอย่างไร ดังตัวอย่างที่มีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เมื่อมีข่าว “ก้อย-ตูน” ทำบุญต้อนรับปีใหม่ ด้วยการไปปล่อยปลา ปล่อยกบ ลงแม่น้ำ จนมีชาวเน็ตเตือนมากมายว่าเป็นการปล่อยสัตว์ที่ไม่ถูกต้อง

แต่ทว่าจะมีสักกี่คนที่ทราบว่าสัตว์ต่าง ๆ ที่ปล่อยไปนั้น เมื่อปล่อยลงในแหล่งน้ำแล้วจะไปรุกรานสัตว์น้ำพื้นถิ่นหรือระบบนิเวศหรือไม่ ปล่อยไปแล้วสัตว์จะสามารถเจริญเติบโตได้นานแค่ไหน ปล่อยแล้วจะรอดหรือไม่ มีผลกระทบอย่างไร เราไม่ควรมองข้ามเรื่องพวกนี้ไป ด้วยเหตุนี้เองทางเรา Ruay จึงจะมาสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจถึงวิธี ปล่อยสัตว์ยังไงให้ได้บุญ แทนบาป ช่วยเสริมบุญบารมี และนำสิ่งที่ไม่ดีออกให้ผ่านพ้นไปจากตัวผู้ปล่อย

ปล่อยสัตว์ยังไงให้ได้บุญ แทนบาป

เราคนไทยถูกสั่งสอนจากรุ่นสู่รุ่นว่าการปล่อยสัตว์ การปล่อยปลา ถือเป็นการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเป็นการให้อิสระกับชีวิตที่ถูกกักขัง มีความเชื่อกันว่าเป็นการต่ออายุให้ยืนยาวหรือเพื่อสะเดาะเคราะห์กรรม ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าแต่ละที่ไม่ว่าจะเป็นวัดหรือตลาด จะมีสัตว์หลากหลายชนิดวางขายเพื่อรอผู้ใจบุญมาปลดปล่อยจากพันธนาการ แต่ผู้ใจบุญทั้งหลายได้เคยฉุกคิดกันไหมว่า การปล่อยสัตว์แต่ละชนิดนั้นควรปล่อยลงที่ไหนบ้าง ตามแอดมินมาพิจารณาตามข้อต่าง ๆ เหล่านี้ก่อนนำสัตว์ไปปล่อยกัน

ข้อควรคำนึงก่อน “ปล่อยสัตว์” ต่าง ๆ 

  • เป็นสัตว์ของไทยหรือไม่ ? การที่เรานำสัตว์ต่างถิ่นหรือลูกผสมที่ไม่สัตว์ในไทยมาปล่อย อย่างเช่น ปลาซัคเกอร์ ปลาดุกบิ๊กอุย เป็นต้น ไม่ควรที่จะนำมาปล่อยลงในแหล่งน้ำธรรมชาติของเรา เพราะมันจะไม่สามารถเจริญเติบโตและเอาชีวิตรอดได้ หรือมันอาจจะไปทำลายระบบนิเวศของเราแทน
  • เป็นสัตว์คุ้มครองหรือไม่ ? การนำสัตว์ป่าคุ้มครองมาเลี้ยง หรือนำไปปล่อยตามสถานที่ต่าง ๆ ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายดังนั้นก่อนที่จะนำสัตว์ใด ๆ มาปล่อยควรตรวจสอบให้ดีก่อน
  • ปล่อยไปแล้วสามารถอยู่รอดได้หรือไม่ ? สัตว์แต่ละชนิดก็จะมีที่อยู่อาศัยแตกต่างกันไป ถึงแม้จะเป็นปลาเหมือนกันแต่ที่อยู่อาศัยก็แตกต่างกันได้ เช่น ปลาไหล แหล่งที่อยู่ของมันจะอยู่บริเวณน้ำตื้นมีพงหญ้า และมีบริเวณดินให้เขาได้อยู่อาศัยได้
  • เป็นสัตว์ถูกจับมาหรือไม่ ? การที่จับสัตว์ที่เคยอยู่ในสภาพถิ่นที่อยู่ที่ดีอยู่แล้ว หากโดนจับไปปล่อยยังถิ่นที่อื่นอาจจะทำให้เขาไม่สามารถอยู่รอดได้ อาจจะโดนสัตว์เจ้าถิ่นทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย

ข้อควรคำนึงก่อน “ปล่อยสัตว์น้ำ” ที่ถูกต้อง

  • ความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อม สัตว์ที่เราปล่อยแต่ละชนิดก็มีลักษณะการอยู่อาศัยที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสการอยู่รอดของสัตว์เราต้องเลือกสถานที่ที่เหมาะสม มีความสมบูรณ์นิเวศของแหล่งน้ำที่ปล่อยด้วย
  • ความแข็งแรงของสัตว์ การเลือกสัตว์ที่จะมาปล่อยนั้นให้ลือกดูสัตว์ที่สมบูรณ์ มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคติดมา หรือมีแผลตามลำตัว เพราะเชื้อโรคเหล่านี้จะไปเผยแพร่ขยายพันธุ์ในแหล่งน้ำธรรมชาติ จะส่งผลกระทบกับสัตว์น้ำทั้งหมดได้
  • ปล่อยสัตว์น้ำตามท้องถิ่น นั่นเพราะว่าหากนำเอาสัตว์ต่างถิ่นที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย พวกนี้จะทำให้ระบบนิเวศเดิมที่มีอยู่เสียหาย เพราะอาจจะมาแย่งอาหาร หรือมาปล่อยโรค หรือแม้กระทั่งกินสัตว์ท้องถิ่นเป็นอาหาร และอาจจะทำให้สัตว์พื้นเมืองกลายพันธุ์ได้
  • คุณภาพของน้ำ ควรหาแหล่งน้ำที่มีคุณภาพดีใสสะอาด ต้องไม่เป็นสีดำ หรือสีเขียวเข้มจัดเพราะน้ำพวกนี้จะมีค่าของออกซิเจนต่ำมาก หากปล่อยสัตว์น้ำลงไปจะไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่รอดได้
  • เวลาปล่อยสัตว์น้ำ เวลาที่จะปล่อยสัตว์นั้นเป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง หากปล่อยในช่วงเวลาเที่ยง ๆ อากาศจะมีความร้อนจัด สัตว์น้ำอาจจะปรับตัวไม่ทันจะทำให้น็อคและตายได้ ดังนั้นเวลาที่เหมาะสมในการปล่อยสัตว์น้ำคือ ช่วงเช้า และช่วงเย็นที่อากาศไม่ร้อนจัด

สัตว์ที่ควรปล่อยและไม่ควรปล่อย

การทำบุญปล่อยสัตว์ที่มาพร้อมกับความเชื่อ ทั้งเรื่องโชคลาภ หน้าที่การงาน ความราบรื่นในชีวิต หรือแม้กระทั่งเพื่อสะเดาะเคราะห์ ผู้ปล่อยควรจะศึกษาสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของสัตว์แต่ละชนิดด้วย เพื่อที่จะไม่สร้างความทรมานให้สัตว์มากกว่าเดิม แทนที่จะได้บุญกลับได้บาปมาแทน โดยสัตว์ที่ควรปล่อยและไม่ควรปล่อย สามารถอธิบายได้ดังนี้

สัตว์ที่ไม่ควรปล่อย

ปล่อยนก

นก

โดยส่วนใหญ่นกที่อยู่ตามธรรมชาติจะเป็นสัตว์คุ้มครองเกือบจะทั้งหมด นั่นหมายความว่าใครที่มีครอบครอง หรือคนที่นำมาขาย และผู้ที่ซื้อไปปล่อยหรือนำไปเลี้ยงล้วนผิดกฎหมายทั้งหมด รวมไปถึงนกเลี้ยงต่าง ๆ เช่น นกแก้วมาคอร์ นกหงส์หยก ล้วนเป็นนกต่างถิ่นหากนำมาปล่อยแล้วมันไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้

เต่า

เต่าน้ำจืดของไทย ทุกสายพันธุ์ล้วนเป็นสัตว์คุ้มครอง การ ปล่อยสัตว์ยังไงให้ได้บุญ แค่จับมาขายให้เราปล่อยก็ถือว่าผิดกฎหมายไม่ควรส่งเสริม นอกจากนี้เต่าน้ำจืดของบ้านเรา คือ เต่านา เต่าหับ เต่าบัว เต่าดำ และ เต่าหวาย ต้องมีสิ่งแวดล้อมที่มีน้ำไม่ลึก และส่วนที่เป็นบริเวณพื้นดินให้ขึ้นมาเกาะพักได้ มีต้นไม้ชายน้ำ แต่ถ้าเป็นพวกท่าน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือ หรือท่าน้ำวัดเป็นบริเวณที่ไม่เหมาะสมเลยเพราะว่าเป็นเพียงแค่ท่าน้ำคอนกรีตยากที่เต่าจะรอดชีวิตได้

ตะพาบ

ตะพาบที่นิยมกันมากที่สุดคือสายพันธุ์ตัวเล็ก ๆ มี ตะพาบไต้หวัน ตัวเขียวเล็ก ๆ ตะพาบเหล่านี้เป็นสัตว์จากท้องถิ่นอื่นไม่สมควรจะนำมาปล่อยโดยเด็ดขาด

กบ

โดยส่วนใหญ่แล้วกบที่ถูกจับมาปล่อยนั้นจะเป็นกบนา ดังนั้น การปล่อยกบนาต้องหาบริเวณพื้นที่ชื้นแฉะ มีน้ำขังเล็กน้อย ตามท้องร่องท้องนา แต่ขอแนะนำว่าอย่าปล่อยเยอะจนเกินไป เพราะกบพวกนี้เป็นกบนักล่าจะไปทำให้สัตว์เล็กสัตว์น้อยสูญพันธุ์ไปจากบริเวณนั้นได้

ปลา

ปลาเป็นสัตว์ที่นิยมทำบุญปล่อยมากกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มปลาที่ไม่ควรปล่อยเด็ดขาดคือ พวกปลาต่างถิ่นต่าง ๆ ได้แก่

  • ปลาซัคเกอร์ ห้ามปล่อยโดยเด็ดขาด เป็นปลาต่างถิ่นที่กินทุกอย่างที่ขวางหน้า แม้แต่ไข่ปลาท้องถิ่น
  • ปลาจาระเม็ดน้ำจืด เป็นปลาที่มาจากแม่น้ำอเมซอน ถึงจะมีนิสัยดุร้ายไม่เท่าปลาปิรันย่า แต่ก็ห้ามนำมาปล่อยโดยเด็ดขาด
  • ปลานิล ปลาทับทิม เป็นปลาที่มาจากแอฟริกา เหมาะเป็นปลาเพาะเลี้ยง ไม่สมควรนำมาปล่อยตามแหล่งน้ำธรรมชาติ
  • ปลาไน คาร์พ เป็นปลาที่มาจากจีน หากมาปล่อยตามแหล่งน้ำบ้านเราอาจจะไม่สามารถอยู่รอดได้
  • ปลาเลี้ยงสวยงามต่างๆ เช่น ปลาทอง ปลามังกร อโรวาน่า กลุ่มปลาการ์ ไม่ควรนำมาปล่อยอย่างเด็ดขาด
  • ปลาดุก โดยส่วนใหญ่ปลาดุกที่ขายในตลาดจะเป็นปลาดุกที่ผสมข้ามพันธุ์ระหว่างไทยกับต่างประเทศ ไม่ควรนำมาปล่อย

สัตว์ที่ควรปล่อย

ปล่อยปลา

หอยขม 

เชื่อกันว่าการปล่อยหอยขมเป็นวิธีการสะเดาะเคราะห์อย่างหนึ่งจะทำให้หมดทุกข์หมดเคราะห์ เป็นการปลดปล่อยเรื่องไม่ดีความขมขื่นทั้งหลาย ทั้งการที่จะปล่อยหอยขมต้องเลือกสถานที่ที่มีแหล่งน้ำสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ลึกจนเกินไป ไม่ควรปล่อยลงในคลองกลางเมืองหรือชานเมืองเพราะน้ำจะมีการปนเเปื้อนอยู่มาก สามารถที่จะสังเกตได้จากหากเห็นหอยปีนขึ้นมาเกาะตามผนังผิวน้ำ นั่นแสดงว่าอยู่ตรงนั้นไม่ได้ และมีโอกาสรอดน้อย

ปลาช่อน

เป็นปลาท้องถิ่นของไทยเรา หากต้องการปล่อยปลาชนิดนี้ให้ปล่อยในแหล่งที่มีน้ำสะอาด ไม่ลึกมากมีต้นไม้พงหญ้ารก ๆ ให้ปลาได้หลบซุกตัวสามารถที่จะหากินสัตว์ตัวเล็ก ๆ ได้ แต่ไม่ควรปล่อยปลาช่อนจำนวนมากในแหล่งน้ำเดียวกัน เพราะจะทำให้ปลาเล็กปลาน้อยท้องถิ่นสูญพันธุ์เอาได้

ปลาไหล

เป็นปลาอีกหนึ่งชนิดที่เหมาะกับแหล่งน้ำที่ตื้น ๆ มีต้นไม้ขึ้นรกให้มีที่อยู่อาศัยได้ ไม่ควรนำไปปล่อยตามแม่น้ำลำคลองเพราะมันจะไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้เลย

ปลาหมอไทย

ปลาหมอไทยเป็นปลาสายอึด สามารถที่จะปล่อยตามแหล่งน้ำเล็ก ๆ หรือตามแม่น้ำลำคลองก็ได้มันสามารถที่จะอยู่รอดได้ เมื่อปล่อยปลาหมอแล้ว เชื่อกันว่าเพื่อสุขภาพดี แข็งแรง จะทุเลาเบาบางจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่เป็นอยู่

ปลาบู่ 

ปลาบู่มีทั้งพันธุ์น้ำจืดและน้ำกร่อย หากจะนำมาปล่อยให้สังเกตดูให้ดีว่าเป็นชนิดไหนไม่อย่างนั้นอาจจะปล่อยผิดที่แทนที่จะได้บุญกลับเป็นบาปเแทน สำหรับการปล่อยปลาบู่มีความเชื่อกันว่า เพื่อทดแทนบุญคุณบิดามารดา ผู้มีพระคุณ

ปลากราย 

เชื่อกันว่าเมื่อปล่อยปลากราย จะทำให้เรื่องร้าย ๆ ที่เจอจะกลายเป็นดีตามชื่อของปลา ขนาดของปลากรายที่สามารถปล่อยได้ ควรจะมีความยาวประมาณ 4-5 นิ้วขึ้นไป จะทำให้มีโอกาสรอดชีวิตจะสูง สามารถปล่อยลงคลองหรือแม่น้ำก็ได้ แต่บริเวณนั้นควรจะมีตลิ่งมีพืชน้ำหรือวัสดุใต้น้ำเยอะ ๆ 

ปลาตะเพียร

ตามความเชื่อหากนำปลาตะเพียรมาปล่อย จะช่วยส่งเสริมให้ขยันหมั่นเพียรและหาเงินได้มากขึ้นสมชื่อปลาตะเพียร ควรหาบริเวณที่ปล่อยปลาตะเพียรที่ไม่มีปลาหลากหลายสายพันธุ์มากนักเพราะไม่อย่างนั้นมันจะโดนกินหมด

ปล่อยปลาที่วัดไหนดี?

ใครที่อยู่กรุงเทพฯ สามารถลองไปปล่อยปลาที่ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร, วัดยานนาวา, วัดมหาบุศย์, วัดแก้วฟ้าจุฬามณี ฯลฯ ที่กรุงเทพมี วัดปล่อยปลา หลายแห่งที่มีบรรยากาศดีร่มรื่น สามารถไปปล่อยปลาได้สะดวกสบาย

คาถาปล่อยปลา คือ

คาถาที่เราใช้ในการปล่อยปลา สามารถท่องได้หลายบท แต่คาถาที่นิยมคือคาถาของ “หลวงปู่ขวัญ ปวโร พิจิตร” โดยมีบทคาถาที่ท่องไม่ยาก สามารถท่องได้สั้น ๆ และปล่อยปลาได้ทันที

ฝันว่าจับปลา แปลว่า

ดวงของเรากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น มักจะมีคนคอยช่วยเหลือเกื้อกูลในหลาย ๆ เรื่อง ใครที่ทำการได้ก็จะสำเร็จราบรื่น ส่วนใครที่คิดร้ายกับเราก็จะได้รับเรื่องร้าย ๆ คืนกลับไป ฝันว่าจับปลา มีหลายความหมายสามารถอ่านเพิ่มเติมได้

เคล็ดลับการ ปล่อยสัตว์ยังไงให้ได้บุญ แบบเต็ม ๆ

เชื่อว่าหลายต่อหลายคนชอบทำบุญ เข้าวัด และจะขาดไม่ได้เลยจากการทำบุญนั่นคือการปล่อยสัตว์ เพราะถือเป็นการให้ทานชีวิต เป็นบุญที่สูงส่งอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งการเลือกปล่อยสัตว์ให้ได้บุญเต็มที่นั้น ควรปล่อยสัตว์ที่กำลังจะถึงแก่ชีวิต หรือปลาหน้าเขียงที่กำลังจะโดนฆ่า และการนำสัตว์ไปปล่อยนั้นมีสถานที่มากมายที่สามารถปล่อยได้ไม่จำเป็นต้องไปที่วัดอย่างเดียว ยังมีสถานที่อีกมากมายที่สัตว์เหล่านี้จะมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ โดยเคล็ดลับ ปล่อยสัตว์ยังไงให้ได้บุญ ช่วยเสริมบุญบารมี นิยมปล่อยตามกำลังวันเกิด ดังนี้

การปล่อยสัตว์ตามกำลังวันเกิด

  • ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ให้ปล่อยสัตว์จำนวน 6-9 ชีวิต
  • ผู้ที่เกิดวันจันทร์ ให้ปล่อยสัตว์จำนวน 15 ชีวิต
  • ผู้ที่เกิดวันอังคาร ให้ปล่อยสัตว์จำนวน 8 ชีวิต
  • ผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) ให้ปล่อยสัตว์จำนวน 17 ชีวิต
  • ผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) ให้ปล่อยสัตว์จำนวน 12 ชีวิต
  • ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี ให้ปล่อยสัตว์จำนวน 12 ชีวิต
  • ผู้ที่เกิดวันศุกร์ ให้ปล่อยสัตว์จำนวน 21 ชีวิต
  • ผู้ที่เกิดวันเสาร์ ให้ปล่อยสัตว์จำนวน 10 ชีวิต

สรุป

การปล่อยปลาหรือปล่อยสัตว์นั้น ถือเป็นการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่งการที่เราจะ ปล่อยสัตว์ยังไงให้ได้บุญ เพื่อสร้างบุญกุศล และเสริมดวงชะตาตามความเชื่อนั้น เราไม่จำเป็นต้องปล่อยที่วัดเพียงอย่างเดียว เพราะสัตว์บางชนิดที่ไม่สามารถอาศัยอยู่บริเวณหน้าวัด สุดท้ายมันก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ ดังนั้นเราจำเป็นต้องเลือกสถานที่ที่เมื่อเราปล่อยสัตว์เหล่านั้นไปแล้วจะสามารถดำรงชีวิตอยู่บริเวณสถานที่นั้น ๆ ต่อไปได้

ดั่งคำสอนของ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) ที่กล่าวไว้ว่า คนในปัจจุบันมักจะทำบุญเพื่อหวังผลและมีเจตนาเคลือบแฝง เพราะฉะนั้นการที่จะตัดสินใจทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์ชนิดใดก็ตาม ชาว Ruay ทั้งหลายควรจะศึกษาสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของสัตว์แต่ละชนิดด้วย เพื่อที่จะไม่สร้างความทรมานให้สัตว์มากกว่าเดิม แทนที่จะได้บุญกลับได้บาปบริสุทธิ์มาเสียอย่างนั้น

ขอบคุณภาพจาก sites.google

บทความแนะนำอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

Facebook
Twitter
Email