สายพระเครื่องของขลังต้องมา! คาถาอัญเชิญพระเข้าตัว วิธีเพิ่มพลังให้ของขลัง พระเครื่องจาก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา ส่วนตัวแล้ว เราเชื่อว่าคนไทยไม่น้อยที่มีความเชื่อในเรื่องของวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง พระเครื่อง หรือ วัตถุต่างๆ ที่เกิดจากความเชื่อทางไสยศาสตร์ และมักจะชอบเก็บของขลังเหล่านี้เป็นของสะสมภายในบ้านหรือพกติดไว้กับตัวเอง แต่มีเพียงคนไทยไม่กี่คนที่จะรู้วิธีการใช้ให้ประสิทธิภาพและส่งผลในระยะยาว วันนี้แอดมินเลยจะมาแนะนำวิธีในการเพิ่มพลังให้ของขลังจาก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง ก็ต้องไปดูกันเลย
สารบัญ
Toggleประวัติหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา
หลวงพ่อปาน ท่านเกิดวันที่16 กรกฎาคม 2418 ตรงกับในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพี่น้องร่วม 7 คนบิดาชื่ออาจ สุทธาวงศ์ มารดาชื่ออิ่ม สุทธาวงศ์ โดยมีอาชีพการทำนาโยมบิดามารดาขนานนามท่านว่า”ปาน”เพราะท่านมีสัญลักษณ์คือมีปานแดงที่นิ้วก้อยมือซ้ายตั้งแต่โคนนิ้วถึงปลายนิ้ว ท่านเกิดที่หมู่ 5 ตำบลบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ 21 ปี เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2438 ตรงกับวันจันทร์ขึ้น 7 ค่ำเดือน 5 ปีมะแม โดยมีหลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอเป็นอุปัชฌาย์ พระอาจารย์จ้อย วัดบ้านแพนเป็นกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์อุ่น วัดสุธาโภชน์เป็นอนุสาวนาจารย์ และได้รับฉายาว่า “โสนันโท”
ต่อมาท่านได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงพ่อสุ่นพอสมควรแล้ว จึงได้เดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรม ณ วัดสระเกศ กรุงเทพฯ และเรียนอักขระเลขยันต์กับพระอาจารย์จีน วัดเจ้าเจ็ด ในพระนครศรีอยุธยา เรียนแพทย์แผนโบราณจากวัดสังเวชฯศึกษาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย และ พระอาจารย์โหน่ง อิณฑสุวัณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองมะดัน เรียนวิชาสร้างพระเครื่องดินจากชีปะขาว เรียนการปลุกเสกพระเครื่องและเป่ายันต์เกราะเพชรจากอาจารย์แจง สวรรคโลก ได้รับพระคาถาปัจเจกโพธิสัตว์มาจากครูผึ้ง หลังจากนั้น ท่านจึงได้มาอยู่ที่วัดบางนมโคและได้รับพระราชทานสัมณศักดิ์เป็น พระครูวิหารกิจจานุการ
กิจวัตรของท่านก็คือหลังจากท่านฉันภัตตาหารเพลแล้ว ท่านก็จะมาสงเคราะห์ชาวบ้าน ตลอดทั้งวัน และการทำน้ำมนต์เพื่อรักษาคนไข้ รวมทั้งผู้ที่ถูกกระทำคุณไสยด้วย หลวงพ่อปาน โสนันโทได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ตรงกับรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รวมสิริอายุได้ 63 ปี บวชพระมาได้ 42 พรรษา เหลือแต่มรดกที่ล้ำค่า เช่น พระเครื่องดินเผา ผ้ายันต์เกราะเพชร ผ้ายันต์ชนิดต่าง ๆ และพระคาถาปัจเจกโพธิสัตว์
หลวงพ่อปานท่านเป็นสหธรรมิก กับ หลวงปู่ยิ้มวัดเจ้าเจ็ด และหลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก จนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาขนานนามให้ว่า “สามเสือแห่งเมืองกรุงเก่า” คือ พระหมอหลวงพ่อปาน เกจิอาจารย์หลวงพ่อจง เมตตาไหลหลงหลวงปู่ยิ้มพระเครื่องหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเครื่องที่ นักนิยมพระเครื่อง รู้จักกันดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้
คำสอนของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา ท่านเป็นอีกหนึ่งพระเกจิผู้ทรงอภิญญาและยังได้เคยกล่าวสอนลูกศิษย์ในการสร้างพระเครื่องไว้ว่า
“ต้องอาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสาวกทุกองค์ ตลอดจนพระพรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย การชุมนุมบวงสรวงเช่นนี้ประเดี๋ยวก็เสร็จไม่ต้องถึงสามเดือนอย่างที่แล้วมา จงจำไว้ว่าการจะปลุกเสกพระหรือผ้ายันต์อะไรก็ตาม
ถ้าจะอาศัยอำนาจของเราอย่างเดียวไม่ช้าก็เสื่อม เราน่ะมันดีแค่ไหน การทำตัวเป็นคนเก่งน่ะมันใช้ไม่ได้ มันต้องให้พระท่านเก่ง พระพุทธท่านเก่ง พระธรรมท่านเก่ง พระสงฆ์ท่านเก่ง เทวดาท่านเก่ง พระพรหมท่านเก่ง ท่านมาช่วยทำประเดี๋ยวเดียวก็เสร็จดีกว่าเราทำตั้งพันปีเราต้องการให้ท่านช่วยอะไรก็บอกไป
ของที่ทำจะคุ้มครองผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองได้ทุกคนถ้าหากพระก็ดี พระพรหมก็ดี เทวดาก็ดี ท่านช่วย คุ้มครองให้ ท่านก็มองเห็นถนัด คุ้มครองได้ถนัดและจำไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้านำของนั้นไปใช้ในทางทุจริ ต คิดมิชอบก็ไม่มีอะไรจะคุ้มครองได้ ที่เป็นคนเลวอยู่แล้ว ก็ช่วยพยุงให้ เ ล ว น้อยหน่อย ต้องช่วยตัวเองด้วยไม่ใช่จะคอยพึ่งผ้ายันต์หรือพระ
ถ้าดีอยู่แล้วก็ช่วยให้ดียิ่งขึ้น นี่เป็นกฎของอำนาจพระพุทธบารมี พระธรรมบารมี พระสังฆบารมี ตลอดจนพระพรหมและเทวดาทั้งหลาย…”
วิธีเพิ่มพลังให้ของขลังจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา
ข้อ 1 ก่อนคล้องพระต้องสวดบทคาถาอัญเชิญพระเข้าตัว
ข้อ 2 ตามหลักของบูรพาจารย์นั้น เมื่อรับพระเครื่องมาแล้วนั้นไม่ว่าจะรับจากครูบาอาจารย์โดยตรง จากคนอื่นหรือไปเช่ามา หรือด้วยเหตุอันใดก็ตาม ควรต้องมีการอัญเชิญพระเข้าตัว การอัญเชิญนี้เพื่อให้คนที่รับพระเครื่องนั้น น้อมนำและสำนึกในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เป็นการเริ่มนิมิตหมายที่ดีในชีวิตที่กำลังเดินทางไปสู่ความเจริญ
ข้อ 3 ถ้าหากจะสวมใส่ในแต่ละวัน ให้สวดอัญเชิญพระเข้าตัวก่อนคล้องพระทุกครั้ง ในการสวดนั้นต้องทำจิ ต ให้ นิ่ง ระลึกเคารพถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ทุกครั้ง แล้วสวดคาถา พลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ในองค์พระที่ท่านใส่นั้น จะช่วยปกป้องคุ้มครองและดลบันดาลตามที่ท่านปรารถนา
คาถาอัญเชิญพระเข้าตัว
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะเตเชนะ รักขังพันธามิ สัพพะโส
พุทธังอธิษฐามิ ธัมมังอธิษฐามิ สังฆังอธิษฐามิ
(สวด 3 จบหรือ 5 จบ ก่อนที่ห้อยพระ)
สรุป
หากอยากให้พระเครี่อง ของขลังใช้ได้ผลในระยะยาว Ruay365.com บอกเลยการให้ทาน รักษาศีล ปฏิบัติธรรม ถือเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยป้องกันภยันอันตรายไปจากตัวเรา และยังเป็นการเสริมสร้างดวงชะตาให้กับเราได้ดีที่สุด ส่วน วิธีเพิ่มพลังให้ของขลังจาก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา เป็นเพียงปัจจัยเสริมเท่านั้น ของขลังจะมีพลังมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เท่านั้น ทั้งอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ในด้านต่างๆ เช่น เมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี หรือการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ฯลฯ
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ด้วยพลังจิตกุศล ถ้าผู้ที่สวมใส่หรือบูชาของขลังมีศรัทธาที่แรงกล้า หมั่นทำบุญ สวดมนต์ ไหว้พระ อยู่บ่อยๆ คิดดี ทำดี ไม่ทำร้ายผู้อื่น ก็จะทำให้คาถานี้ได้ผลมากยิ่งขึ้น เมื่อใดที่จะท่องหรือจะใช้พระคาถาใดๆ ทุกๆ พระคาถาจะต้องตั้ง “นะโม” สามจบก่อน การใช้คาถานั้น ผลสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็อยู่ที่ดวงจิตอันสำรวมเป็นสมาธิ และที่สำคัญที่สุด ถือศีล 5 ข้อ หมั่นทำความดี สร้างบุญบารมี จะช่วยปกป้องคุ้มครองเราตลอดไป