#ประเทศกูมี
ประเทศกูมีความเชื่อเยอะแยะไปหมด!! (ไม่ต้องเลิ่กลั่ก) หรือว่าใครจะเถียง เพราะเรียกได้ว่า คนไทยกับความเชื่อ เป็นของคู่กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็เข้าใจอะเนอะว่าพยายามแล้ว แต่แค่ออกให้ตรงกับที่กูซื้อ มันยากนักหรอวะ การใส่ตะกรุด พกสาลิกาลิ้นทอง หรือกำไรข้อมือที่เป็นสัตว์มงคลจากเมืองจีน อย่าง ปี่เซี๊ยะ จึงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเราเชื่อกันว่าวัตถุมงคล เครื่องรางเหล่านี้ เป็นตัวช่วยในการเสริมดวง สร้างบารมี ชื่อเสียงเงินทอง สุขภาพแข็งแรง ไปจนถึงในเรื่องของความรัก เพราะสิ่งเหล่านี้แม้ช่วยไม่ได้มาก แต่ก็ทำให้จิตใจสบายได้หากมีพกติดตัว
ปัจจุบันนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง และฮอตฮิตถึงขั้นเอาความ ‘ความเชื่อ’ กับ ‘แฟชั่น’ มารวมกัน กลายเป็นเทรนด์ใหม่ปลุกกระแสวัยรุ่น และสถาปนาพวกที่ชื่นชอบบูชาวัตถุมงคล ใส่เครื่องรางติดตัวกันราวกับเครื่องประดับว่า “สายมู” ว่าแล้วก็ตั้งจิตภาวนาพร้อมกล่าวคำว่า โอมอะนันตะปัดชะเย อะปัดติเถเถนา ไม่ใช่!
รู้ไว้ไม่เสียหาย : มูเตลู คืออะไร? แท้จริงแล้วเป็นชื่อหนังเรื่องหนึ่งจากประเทศอินโดนีเซีย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำ ซึ่งเหล่าชาวเน็ตนำคำนี้มาใช้เรียกคนที่มีศรัทธาหรือความเชื่อเรื่องโชครางของขลัง นับถือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ว่า เป็นพวกสายมูเตลู หรือเรียกย่อ ๆ ว่าสายมู นั่นเอง
#ประเทศอื่นก็มี
ไม่เพียงแต่ประเทศไทยของเราเท่านั้นที่มีความเชื่อเรื่องของโชค สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในแต่ละประเทศเค้าก็จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป สังเกตได้จากบรรดาวัตถุมงคลต่าง ๆ ก็มีหลายอย่าง ที่ได้รับความเชื่อส่งต่อกันมาจากสัญชาติอื่น อย่าง “ปี่เซี๊ยะ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศจีน สุดยอดเครื่องราง ที่ได้รับความนิยมทั้งในเมืองไทยและในประเทศต่าง ๆ
สายมูต้องอ่าน! ปี่เซี๊ยะ พาถูกหวย
ตามความเชื่อของจีนยกให้ ปี่เซี๊ยะเป็น “เทพแห่งโชคลาภ” มีตำนานที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์จีนมาอย่างยาวนาน ถือเป็นมังกรตัวที่ 9 สัตว์เทพมงคล ที่มีลักษณะครบตามหลักเบญจธาตุ คือ มีลักษณะสี่เท้าของสิงโตอันทรงพลัง (ทอง),
มีเขาและลำตัวเป็นกวางที่อ่อนช้อย (น้ำ), มีปีกของพญานกอันแข็งแกร่ง (ไฟ), มีศีรษะของมังกรอันทรงพลัง (ไม้), มีหางแมวอันศักดิ์สิทธิ์กวักโชคลาภเงินทอง (ดิน) ไม่มีรูทวารหนักและเบา
จึงถูกนำใช้เป็นสัญลักษณ์ในเชิงอานุภาพเรื่องของโชคลาภ ความมั่งคั่ง การกักเก็บทรัพย์ ไม่ให้เงินทองรั่วไหล แม่นยำ และช่วยเสริมพลังในด้านต่าง ๆ ดังนี้
- เสริมโชคลาภ ความมั่งคั่ง มั่งมี
- เรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมาแบบไม่มีรั่วไหล
- เสริมชื่อเสียงเกียรติยศ
- ทำให้กิจการก้าวหน้า ธุรกิจร่ำรวย รายได้ดี
- เสริมให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
- เสริมในเรื่องของการป้องกันอุบัติเหตุอันตรายต่าง ๆ และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
ทำให้เหล่าบรรดานักธุรกิจจีนทั้งหลายต่างพากันศรัทธา บูชากันเป็นจำนวนมาก และตั้งสมญานามของ ปี่เซี๊ยะ ว่าเป็น ตัวดูดเงิน หรือตัวรับโชค ซึ่งถือเป็นเครื่องรางจีนที่ส่งเสริมคุณให้กับผู้บูชาทุกสาขาอาชีพ สังเกตได้จากเหล่าคนดังในวงการบันเทิงต่างก็หันมาบูชา และสวมกำไลข้อมือปี่เซี๊ยะกันเป็นจำนวนมาก เช่น แพท ณปภา, ชมพู่ ก่อนบ่าย, ใหม่ สุคนธวา และดีเจบุ๊คโกะ เป็นต้น
โดยเฉพาะคุณชมพู่ ก่อนบ่าย และดีเจบุ๊คโกะ ก็เคยมีข่าวว่า ปี่เซี๊ยะให้โชค ถูกเลขเด็ดมาแล้ว หรือแม้กระทั่งท่ามกลางสถานการณ์สุดปังพินาศในบ้านเราขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้สวมกำไลข้อมือปี่เซี๊ยะเสริมดวงตามความเชื่อกับเค้าเหมือนกัน เห็นแบบนี้แล้วเชื่อว่า #สายมูถูกใจสิ่งนี้ แน่นอน
บูชา ปี่เซี๊ยะ ยังไงให้ปัง พาถูกหวยรับโชค
- ก่อนนำเข้าบ้าน ควรจุดธูปเทียน บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในบ้านให้เรียบร้อย โดยกล่าวขอ นำปี่เซี๊ยะเข้าภายในบ้าน เพื่อช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี และช่วยเรียกทรัพย์
- นำปี่เซี๊ยะไปทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นเป็นเวลา 2 วัน โดยใส่น้ำทั้ง 2 ในปริมาณที่เท่ากัน เพื่อปรับความสมดุลของหยิน-หยาง และถือเป็นการเบิกเนตรตามวิธีจีนโบราณ แต่ในระหว่าง 2 วันนี้ ต้องหมั่นมองหน้าปี่เซียะ เพื่อให้รับรู้ว่าเราเป็นเจ้าของ และเมื่อครบกำหนด ให้เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าสะอาด
- นำปี่เซี๊ยะไปวางที่หน้าพระพุทธรูป หรือเจ้าแม่กวนอิม โดยการนำแก้วใส่น้ำเย็นและร้อน (อย่างละเท่ากัน) เพื่อถวายให้กับปี่เซี๊ยะ
- จุดธูป 5 ดอกตั้งจิตอธิษฐานและสวดมนต์ โดยการท่องนะโม 3 จบ แล้วตามด้วยการสวดคาถาที่ว่า “อุ อา กะ สะ หรือ อุ อา กะ สะ ปี่เซียะ อานุภาโว เมตตาจิต ประสิทธิเม” แล้วปักธูปในกระถาง
- ก่อนสวมกำไลข้อมือปี่เซี๊ยะ หรือจี้ ให้สวดมนต์ไหว้พระ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แต่ละคนนับถือ
ข้อห้ามในการบูชาปี่เซี๊ยะ
- ห้ามลูบปากปี่เซี๊ยะ เพราะจะทำให้เงิน ทองรั่วไหล
- หากเราบูชาแล้ว ห้ามยกปี่เซี๊ยะให้ผู้อื่นไปบูชา เพราะถือเป็นวัตถุมงคลเฉพาะบุคคล
- ห้ามให้ผู้อื่นมาลูบปี่เซี๊ยะของเราโดยเด็ดขาด
- ไม่ควรนำปี่เซี๊ยะไปงานที่ไม่เป็นมงคล เช่น งานศพ เป็นต้น
สรุป
การพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งที่มองไม่เห็นนี้นั้น ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ จะมาบอกว่ามูแล้วไม่เห็นถูกหวยเลย มูแล้วไม่เห็นดีเลย หรือใส่ไปไล่รัฐบาลก็ไม่เห็นได้ผล หนูจ้ะ…มันก็ต้องเชื่ออย่างมีสตินะลู้กกก ทางที่ดีคือตั้งหน้าตั้งตาขยันทำงาน ดูแลตัวเองตัวแลครอบครัวให้ดี ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต แล้วสิ่งดี ๆ เลขเด็ด ๆ ก็อาจจะตามมาในฝันบ้างไรบ้าง
