ไม่ควรแก้บนวันไหน ? เป็นคำถามที่แฝงไปด้วยความเชื่อ ที่มักเกิดจากความกลัวในสิ่งที่ตนเองไม่สามารถควบคุมได้ เชื่อกันว่าสิ่งเหล่านั้นมีอำนาจเหนือธรรมชาติในการให้คุณให้โทษ แต่หากถามว่าอำนาจเหนือธรรมชาตินี้เป็นสิ่งที่น่ากลัว แล้วทำไมเรายังมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องอยู่กับเรื่องราวแบบนี้กันมาโดยตลอด
นั่นเป็นเพราะคนไทยมีความเชื่อในเรื่องของสิ่งที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติ วิญญาณ ภูตผีปีศาจ โชคลางมาอย่างช้านาน จึงเป็นที่มาของการนับถือบูชาอำนาจเหนือธรรมชาติ พัฒนามาเป็น “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ผ่านการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น มีการ “บนบานศาลกล่าว” จนกลายเป็นพฤติกรรมและความเชื่อที่ยังคงแทรกซึมอยู่ในคนไทยทุกยุคทุกสมัย
ซึ่งประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องราวไกลตัวอะไรสำหรับคนไทยเลย แต่ก็ยังคงเป็นประเด็นที่มักมีคำถามพ่วงมาอยู่ตลอด โดยในครั้งนี้ Ruay365 จะขออาสามาตอบคำถามของทุกคน กับเรื่องราวของการ “บนบาน” และการ “แก้บน” ที่ทำแล้วชีวิตอาจจะดีขึ้นก็เป็นได้ ว่าแต่จะต้องทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
ความเชื่อ “บนบาน” และ “แก้บน” คืออะไร
การบนบาน หรือ การบนบานศาลกล่าว คือ การขอร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วย โดยให้คำมั่นว่าจะให้สิ่งของตอบแทนหรือทำตามที่ให้สัญญาไว้เมื่อเป็นผลสำเร็จ แน่นอนว่าการบนบานคงเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วตั้งแต่สมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นการบนบานในเรื่องการงาน ความรัก การเรียน สุขภาพ และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย
สิ่งไหนที่ไม่ประสบความสำเร็จ กลัวว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะมาขอพรอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาลให้พรนั้นเกิดประสบพบขึ้นกับเรา หรือแม้กระทั่งบางคนสิ้นหวัง หมดหนทาง ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาตรงหน้าอย่าไรแล้ว ก็จะมาทำการบนบาน เรียกได้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเสมือนที่พึ่งหรือที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนไทยทุกคนเลยก็ว่าได้
แต่ก็ไม่ใช่ว่าบนบานขอพรไปแล้วจะไม่ต้องทำอะไร รอผลสำเร็จเพียงอย่างเดียว เพราะก่อนที่เราจะได้ผลดี เราจะต้องทำกรรมดีเสียก่อน และที่สำคัญเมื่อได้สมความปรารถนาแล้ว อย่าลืมไป “แก้บน” ตามที่ให้สัญญาไว้ เพราะสิ่งนี้แหละเชื่อกันว่าจะส่งผลต่อชีวิตการเป็นอยู่ของผู้ขอ
โดยหากผู้ใดได้บนบานไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องนึกถึงไว้ตลอด คือ
- ถ้าบนแล้วสำเร็จ ต้องรีบกลับไปแก้บนอย่างรวดเร็วที่สุด และทำตามที่บนบอกไว้ทุกอย่าง
- สัญญากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ยังไง ต้องทำให้ได้อย่างงั้น ไม่อย่างนั้นชีวิตจะหาความเจริญก้าวหน้าไม่ได้ ไปอธิษฐานบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นก็ไร้ผล
- บนเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงสถานที่เดียวเท่านั้น อย่าเอาเรื่องเดียวกันไปบนที่อื่นอีก เนื่องจากบางคนหมกมุ่นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาก เที่ยวตระเวนบนไว้เป็นสิบเป็นร้อยศาล พอสำเร็จขึ้นมาไม่รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้ เป็นเหตุให้ไปแก้บนไม่ครบ ไม่ถูกที่
เวลาแก้บนที่ถูกต้อง ไม่ควรแก้บนวันไหน
ห้ามแก้บนวันพระ จริงหรือไม่? ถ้าตอบตามหลักความเชื่อเรื่อง ไม่ควรแก้บนวันไหน โบราณมักห้ามปรามไม่ให้แก้บนวันพระ เพราะในวันพระนั้นจะเป็นวันที่เทพทั้งหลายบำเบ็ญศีล จึงนิยมทำการแก้บนวันอังคาร์ วันเสาร์ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
หากถ้าตอบตามหลักความจริงหรือทางพระพุทธศาสนาแล้ว มีความหมายเป็นนัยยะแฝงไว้ว่า การที่พระท่านไม่รับแก้ในวันพระ เพราะท่านต้องประกอบกิจของสงฆ์ ไม่ควรไปเบียดเบียนในการบำเพ็ญบุญของท่าน เนื่องจาก “วันพระ” เป็นวันประชุมของพุทธศาสนิกชน เพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาในพระพุทธศาสนา
อธิบายเข้าใจง่าย ๆ คือ พระท่านไม่ว่าง เพราะท่านต้องประกอบกิจของสงฆ์นั่นเอง แต่ในปัจจุบันเราสามารถเลือกวันแก้บนได้ตามฤกษ์สะดวก ขึ้นอยู่กับผู้ขอหรือบางทีก็ขึ้นอยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราไปขอ
วิธี แก้บนที่จำไม่ได้
เวลาขอพรอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไปบนบานศาลกล่าวเอาไว้ แน่นอนล่ะว่าต้องมีบ้างที่จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยไปบนบานที่ไหนไว้บ้าง บางครั้งเราก็พูดบนบานศาลกล่าวเอาไว้ แต่กลับลืมไปแก้บนตามที่ขอไว้ ซึ่งปัญหานี้มีวิธีแก้ได้ 2 วิธี ดังนี้
วิธีการถอนคำอธิษฐานด้วยบุญ
“ตั้งจิตให้มั่นคงเสียก่อน แล้วกล่าวตั้งนะโมฯ 3 จบ ข้าพเจ้าชื่อ…สกุล…ด้วยสัจจะอธิษฐานทั้งในอดีตชาติและชาตินี้เรื่อง…(เอาที่จำได้ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดถึง) สิ่งของใด ๆ ที่ได้บนบาน สาบาน สาปแช่ง ที่จำได้ก็ดี และจำไม่ได้ก็ดี มาถึงบัดนี้ ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐาน บนบาน สาบาน สาปแช่งทั้งหมด ถวายแก้บนทั้งหมด ณ บัดนี้
ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้ากรรมนายเวร ดวงจิตวิญญาณทั้งหลายโปรดมารับ โปรดมาโมทนา โปรดมาอโหสิกรรม และโปรดสงเคราะห์ตามความประสงค์ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ โปรดถอนตัวจากอุปสรรคทั้งปวง ทั้งในเรื่องการงาน การเงิน สุขภาพ ขอโปรดเมตตาให้ข้าพเจ้าได้พบกับกรรมดี บุญกุศลที่เคยทำมา มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง จนตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ”
วิธีการถอนคำอธิษฐานด้วยเครื่องเซ่นไหว้
สิ่งที่ต้องเตรียม
- พระพุทธรูปปางสมาธิ 1 องค์
- ผลไม้ 5 หรือ 7 อย่าง แต่ใน 5 หรือ 7 อย่างนั้นต้องประกอบไปด้วย กล้วยน้ำว้า 1 หวี, มะพร้าว 1 ลูก, สับปะรด 1 ผล, ผลไม้ตามฤดูกาล
- หมากพลู, บุหรี่ 5 มวน
- พวงมาลัยดาวเรือง 3 พวง
- น้ำแดง 1 ขวด, น้ำเขียว 1 ขวด
- น้ำเปล่า 1 ขวด
- เทียนขาว 2 เล่ม
- ธูป 16 ดอก
วิธีการ
- จัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้วางไว้ให้เรียบร้อย
- จากนั้นจุดธูป 16 ดอก และกล่าวตาม..
“ข้าพเจ้า ชื่อ…นามสกุล…วันเดือนปีเกิด… ขออัญเชิญองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเป็นประธานและสักขีพยาน ตลอดทั้งอัญเชิญเทพเทวาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรวมทั้งเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา ให้มารับเครื่องสังเวยเครื่องสักการะที่ลูกได้จัดถวายให้แล้วในวันนี้ เนื่องจากว่าลูกเคยบนบานศาลกล่าว รวมทั้งสาบานมานานแล้วจนถึงปัจจุบันทั้งหลายทั้งปวง ทั้งที่จำได้และจำไม่ได้ก็ดี ทั้งที่สำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ตาม ก็ขออัญเชิญให้มารับเครื่องแก้บนทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อท่านทั้งหลายได้รับแล้วลูกขอถอนคำสาบาน คำบนบานศาลกล่าวทั้งหมดขอให้สิ้นสุด ณ วินาทีนี้เป็นต้นไป ถ้าหากลูกมีความจำเป็นจะต้องบนบานศาลกล่าวอีกก็จะกล่าวบนบานใหม่อีกรอบในคราวต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ …”
- พอพูดจบสาธุให้ทำการปักธูป
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยอดนิยม “บนแล้วได้ ไหว้แล้วรวย”
ปัจจุบันความเชื่อในเรื่องบนบาน เรื่องของการ ไม่ควรแก้บนวันไหน ยังคงเป็นพฤติกรรมที่ยังทำกันอยู่เรื่อยมา และผู้คนยังนิยมเดินทางไปบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันไม่ขาดสาย โดยสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยอดนิยมที่เชื่อกันว่าบนแล้วได้ไหว้แล้วรวย มี 9 แห่ง ดังนี้
วัดหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา
เรื่องที่บน : การมีบุตร โชคลาภ และทุกเรื่อง
วิธีบน : จุดธูป 16 ดอก และพวงมาลัย
วิธีแก้บน : แก้ตามคำกล่าว ถวายละคร ใช้ทองคำเปลว 100 แผ่น และไข่ต้ม หรือโดยการนำอาหารมาถวายท่าน
พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ กรุงเทพฯ
เรื่องที่บน : การค้าขาย การเรียน การงาน หนี้สินจากการค้าขาย
วิธีบน : ใช้ธูป 16 ดอก มาลัยดาวเรือง มาลัยมะลิดาวเรือง หากขอพรให้ใช้ธูป 9 ดอก
วิธีแก้บน : แก้บนตามคำกล่าว หรือนำอาหารมาถวายท่าน
ลานพระบรมรูปทรงม้า เขตดุสิต กรุงเทพฯ
เรื่องที่บน : การเรียน ขอให้มีสิทธิ์เรียนรักษาดินแดน
วิธีบน :จุดธูป 16 ดอก กุหลาบสีชมพู บนครั้งแรกจุดธูป 16 ดอก ครั้งต่อไป 9 ดอก
วิธีแก้บน : แก้บนตามคำกล่าว หรือน้ำมะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า ทองหยอด บรั่นดี ซิการ์ ข้าวคลุกกะปิ กุหลาบชมพู
กรมหลวงชุมพรฯ (เสด็จเตี่ย) จ.ชุมพร
เรื่องที่บน : ส่วนมากจะเป็นเรื่องการขอ มากกว่าการบน ทั้งการค้า การงาน การเงิน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ
วิธีบน : จุดธูป 19 ดอก และกุหลาบแดง
วิธีแก้บน : แก้ตามคำกล่าว หรือถวายกุหลาบแดง จุดประทัด หมากพลู ผลไม้
ศาลหลักเมือง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เรื่องที่บน : ความมั่นคงในหน้าที่การงาน ครอบครัว
วิธีบน : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้าแพร 3 สี ดอกบัว พวงมาลัย 7 สี 4 ทิศ และผ้าสามสี
วิธีแก้บน : ถวายพวงมาลัย หรือผูกผ้า 3 สี
ศาลย่านาค วัดมหาบุศย์ กรุงเทพฯ
เรื่องที่บน : โชคลาภ ความรัก การเกณฑ์ทหาร ครอบครัว และความสุขในชีวิต
วิธีบน : จุดธูป 9 ดอก
วิธีแก้บน : แก้ตามคำกล่าว หรือถวายผ้าถุง พวงมาลัย ของเล่นเด็ก หรือถวายสังฆทาน
ชื่อที่คนสมัยนี้นิยมเรียกแทน “แม่นาค” ซึ่งแท้จริงแต่ก่อนนั้น ย่านาคก็คือ “แม่นาคแห่งพระโขนง” ที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง “พี่มากพระโขนง” นั่นเอง โดยวิญญาณของย่านาคได้ถูกตรึงอยู่ที่วัดมหาบุศย์ และกลายเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ให้โชคลาภกับชาวบ้าน
ในอดีตนั้นเคยมีหญิงตั้งครรภ์ผุ้หนึ่งชื่อว่า “แม่นาค” เธอได้เสียชีวิตลงระหว่างตั้งท้องและสามีได้ไปออกรบ วิญญาณของเธอได้เฝ้ารอสามีกลับมาบ้านทุกวันที่ริมคลองพระโขนง ใครพายเรือผ่านไปมาก็ต้องเห็นวิญญาณกันทุกราย จนในที่สุด “พี่มาก” สามีของเธอก็กลับมาบ้าน และรู้ความจริงว่าวิญญาณของเมียนั้นกลายเป็นผีเฮี้ยน ภายหลัง “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)” จึงมาช่วยปราบแม่นาคจับถ่วงหม้อลงน้ำ
เพราะว่าสามีของย่านาคนั้นเคยไปออกรบในระหว่างที่เธอเสียชีวิต จึงทำให้ทำจำฝังใจอย่างมาก ชาวไทยจึงเชื่อว่าถ้ามาขอย่านาคเรื่องทหาร ท่านจะเห็นใจและช่วยให้คำขอเป็นจริง ทำให้บนบานและไม่ได้เป็นทหาร
ท้าวมหาพรหมเอราวัณ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เรื่องที่บน : ค้าขาย การงาน การเรียน ด้านธุรกิจ
วิธีบน : จุดธูป 12 ดอก ไหว้ทั้ง 4 หน้า
วิธีแก้บน : แก้ตามคำกล่าว หรือรำแก้บน
ศาลเจ้าพ่อเสือ ใกล้เสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เรื่องที่บน : การค้าขาย เสริมวาสนาบารมี ครอบครัว งาน และลาภผล
วิธีบน : ธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ มาลัย 1 พวง หรือถวายเงินเติมน้ำมันตะเกียง
วิธีแก้บน : แก้ตามคำกล่าว หรือถวายเครื่องแก้บน
พระตรีมูรติ ห้างเซ็นทรัลเวิล กรุงเทพฯ
เรื่องที่บน : เกี่ยวกับความรัก
วิธีบน : เทียนแดง 1 เล่ม ธูปแดง 9 ดอก บนในช่วง 09.30-21.30 น.
วิธีแก้บน : แก้ตามคำกล่าว หรือน้ำผลไม้ กุหลาบแดง พวงมาลัยกุหลาบ รูปปั้นช้าง
สรุป
การบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่กับวิถีชีวิตไทยมาช้านาน จนกลายเป็นค่านิยมไปแล้วไปทั้งประเทศ เป็นความเชื่อที่คล้ายกับการที่เราไปให้คำสัญญากับใครไว้ ก็ไม่ควรผิดคำพูด และจำเป็นต้องทำตามสัญญา
แต่ก็ไม่ใช่ว่าบนบานขอพรไปแล้วจะไม่ต้องทำอะไร รอผลสำเร็จเพียงอย่างเดียว เราต้องคิดดีทำดีด้วย จึงจะเกิดผลดี ฉะนั้นแล้วหากใครที่ช่วงนี้ชีวิตติดขัด ไม่ราบรื่น ลองถามตัวเองดูว่าเคยไปบนบานอะไรแล้วไม่ได้แก้หรือเปล่า
เมื่อทราบแล้วว่า ไม่ควรแก้บนวันไหน ก็รีบจัดการหาวันเวลาไปแก้บนด่วน ทางที่ดีไม่ควรแก้บนในวันพระ เพราะพระท่านต้องประกอบกิจของสงฆ์ ไม่ควรไปเบียดเบียนในการบำเพ็ญบุญของท่าน หรือพิจารณาตามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราไปขอ
เรียกได้ว่าเป็นความเชื่อที่แฝงไปด้วยความรับผิดชอบ การกระทำ และนัยยะต่าง ๆ เสมือนกับปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามา เมื่อคุณสามารถคลายปมเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้แล้ว ชีวิตคุณก็จะเกิดความราบรื่นมากขึ้นนั่นเอง เพราะสุดท้ายแล้วหลักการแก้บนที่แท้จริงและมีประสิทธิผลมากที่สุด อยู่ที่เราได้ทำตามที่เราเองตั้งใจไว้หรือเปล่า หากมั่นใจว่าเราได้ทำแล้ว ก็ถือว่าเราได้ปฏิบัติอย่างสมบูรณ์แล้ว
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก mgronline
บทความแนะนำ
