ประเทศไทยเรามีเรื่องแปลก ๆ ให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ! หลังจากมีข่าวฮือฮาเรื่อง “น้ำพุโซดา” จากแหล่งน้ำบาดาล บริเวณห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหลังจากเจาะลงไปหาน้ำบาดาลลึกกว่า 300 เมตร พบน้ำพวยพุ่งขึ้นมา แถมมีรสหวานซ่าคล้ายโซดา คนเอาตักดื่มกินกันใหญ่ แถมในช่วงวันหยุดก็มีผู้คนจำนวนมากแห่ชมบ่อน้ำบาดาลนี้ พร้อมเซลฟี่เก็บที่ระลึก จนเกิดกระแสต่าง ๆ นานาว่า แท้จริงแล้วน้ำพุโซดานี้กินได้จริงหรือไม่? และจะเป็น “แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์” สถานีต่อไปหรือเปล่า?
โดยเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เผยผลตรวจสอบน้ำบาดาลพุโซดาว่ามีคุณภาพน้ำดี เทียบน้ำแร่ยี่ห้อดังจากเมืองนอก พร้อมดื่มโชว์ ยันดื่มได้แต่ต้องผ่านการกรองสนิมเหล็กออกก่อน ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรสำหรับคนไทยแบบเราเลย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่าพบเจอ “น้ำศักดิ์สิทธิ์” กันอยู่บ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นเพียงแหล่งน้ำธรรมดา หรือบางแห่งเป็นบ่อสะสมเชื้อโรคก็มี
ฉะนั้นแล้วก่อนที่จะแห่ไปตักดื่ม หรือนำมาชำระล้าง ควรรอข้อเท็จจริงเสียก่อน แต่ใช่ว่า แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีอยู่จริง เพราะของจริงอยู่ที่นี่ Ruay รวบรวมมาให้แล้วกับ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 77 จังหวัด ของไทย และ 5 บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลก
สารบัญ
Toggleความแตกต่าง แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไทย VS ต่างประเทศ
ความเชื่อเรื่อง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ นั้นอยู่คู่กับคนทุกชนชาติศาสนา สิ่งเหล่านี้แสดงถึงการเคารพ และการพึ่งพาธรรมชาติของมวลมนุษย์ อีกนัยน์หนึ่งก็ปลูกฝังให้รู้จักอนุรักษ์ธรรมชาติไว้อย่างแนบเนียน นำมาซึ่งความแตกต่างด้านความเชื่อของผู้คน ซึ่งความเชื่อเกี่ยวกับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ไทย และแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่างประเทศมีความแตกต่างกัน ดังนี้
ใช้สำหรับทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง กษัตริย์ และเจ้าเมืองต่าง ๆ เช่น “พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์” พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของรัชกาลที่ 10
มีการใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ หรือทั้ง 77 จังหวัด และแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อีก 108 แหล่ง ตามโบราณราชพิธี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง
ส่วนมากแล้วแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่างประเทศ แต่เดิมเป็นสถานที่ชำระล้างร่างกายของเทพเจ้า สมัยต่อมาผู้คนจึงนิยมตักมาดื่ม อาบ เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึงอธิษฐานขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต
5 แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไทย อยู่ที่ไหน
สำหรับ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 77 จังหวัด จากทั่วประเทศไทยของเรานั้น แต่ละแห่งก็ล้วนแล้วแต่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีความเป็นมาที่น่าสนใจ ซึ่งในวันนี้ Ruay ขอยกตัวอย่างมานำเสนอให้ชม 5 แห่ง 5 จังหวัดด้วยกัน ดังนี้
สิงห์บุรี
เข้าสู่เมืองบางระจันทั้งที มีหรือจะพลาด แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดอย่าง สระน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดโพธิ์เก้าต้น อ.บางระจัน ที่เขาเล่าลือกันมาว่า มีการเสกน้ำมนต์ลงไปในสระแห่งนี้ ให้ชาวบ้านบางระจันไปประพรมทั่วตัว เพื่อเป็นการสร้างเสริมขวัญกำลังใจให้กับเหล่านักรบและชาวเมืองบางระจัน ทำให้รบกับข้าศึก แล้วชนะไปทุกครา โดยแหล่งน้ำแห่งนี้ ปัจจุบันยังมีการนำไปใช้ในพระราชพิธีต่างๆ อีกด้วย
พระนครศรีอยุธยา
จากสิงห์บุรี มูฟมาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรุงเก่าของไทยเรา แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่แปลกกว่าที่ไหน ๆ กล่าวคือ ไม่ได้อยู่ในสระน้ำหรือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แบบที่อื่น แต่อยู่ในเศียรของหลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ พระพุทธรูปเก่าแก่คู่วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา ลักษณะเป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 87 เซนติเมตร สูง 150 ซนติเมตร
เชื่อว่ากันว่าน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในเศียรหลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ มีมาตั้งแต่สมัยพระนารายณ์มหาราช โดยจะนำน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ไปผสมกับบ่อพระพุทธมนต์ วัดพระพายหลวง บ่อพระร่วง จังหวัดสุโขทัย เพื่อใช้ในพิธีชุบพระแสงและเครื่องศัตราวุธในการออกรบนั่นเอง
อุดรธานี
ต่อมาเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังที่คนในวงการหวยรู้จักกันดี นั่นคือ ‘ป่าคำชะโนด’ พื้นที่ที่โอบล้อมไปด้วยต้นคำชะโนด และตำนานพญานาคของพ่อปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีประทุมมา ด้านในของป่าคำชะโนดนั้นมี ‘บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คำชะโนด’ หรือบ่อน้ำผุด ไม่เคยเหือดแห้ง สาธุชนที่มาที่นี่ก็มักจะนำภาชนะบรรจุน้ำมนต์หลับบ้านไปตักน้ำไปล้างหน้า พรมศีรษะ และผสมน้ำอาบ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
สกลนคร
ต่อมาเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อำเภอเมืองสกลนคร แรกเริ่มเดิมทีบ่อน้ำที่นี่เป็นเพียงบ่อน้ำผุดตามธรรมชาติเท่านั้น ต่อมาทางวัดได้มีการสร้างรูปปั้นพญานาคไว้รอบบ่อ ให้ช่วยปกป้องรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า จึงทำให้บ่อศักดิ์สิทธิ์ที่นี่ดด่งดัง และมีชาวสกลนคร รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาเยี่ยมชนเป็นจำนวนมาก
ระนอง
ปิดท้ายแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของไทยด้วย ‘เมืองน้ำแร่’ ที่จังหวัดระนอง หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน” บ่อน้ำแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะรักษะวาริน อ.เมืองระนอง เป็นบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส มีอยู่ด้วยกัน 3 บ่อ ได้แก่ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ลักษณะพิเศษของบ่อน้ำแห่งนี้คือ เป็นบ่อน้ำแห่งเดียวของไทยที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปน มีความบริสุทธิ์สูง สามารถดื่มได้
5 แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่างประเทศ อยู่ที่ไหน
เราได้ทราบกันไปแล้วว่า แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ของไทยอยู่ที่ไหนบ้าง คราวนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จากที่ต่าง ๆ รอบโลกที่น่าสนใจกันบ้าง ดังนี้
โอะชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) หมู่บ้านน้ำใส ประเทศญี่ปุ่น
ไม่มีว่าจะที่ไหน ก็มีแต่น้ำใสจริงๆ สำหรับประเทศญี่ปุ่น โอะชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดยามานาชิ หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาฟูจิ ว่ากันว่าเป็นบ่อน้ำเทพเจ้ามาตั้งแต่สมับโบราณ ใช้สำหรับชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ ก่อนขึ้นไปบนภูเขาฟูจิ เป็นธรรมเนียมดั้งเดิมของการบูชาภูเขาไฟฟูจิ
วิหารฮินดูศักดิ์สิทธิ์ วัดเทมปักสิริงค์ (Tempaksiring Temple) ประเทศอินโดนีเซีย
วิหารฮินดูศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดเทมปักสิริงค์ ประเทศอินโดนีเซีย ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เคยเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ด้านในมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีต้นน้ำจากภูเขาไฟ ชาวบาหลีเชื่อว่า หากได้ดื่มน้ำจากสระแห่งนี้จะช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และผิวพรรณเปล่งปลั่งอยู่เสมอ
วิหารคาร์นัค เมืองลักซอร์ (Karnak Temple) ประเทศอียิปต์
แหล่งรวมอารยธรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่อย่าง “อียิปต์” นั้น มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อว่า ‘มหาวิหารคาร์นัค’ อายุกว่า 4 พันปี สร้างขึ้นมาเพื่อถวายแด่ เทอะมอนรา หรือ สุริยเทพ ในอดีตกษัตริย์ฟาโรมักใช้สถานที่แห่งนี้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ ด้านหลังของตัววิหาร มีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันว่าไม่ว่าจะไปขอพรอันใดก็สมหวังกันทุกคน
คุมาโนะ โคโดะ (Kumano Kodo) ประเทศญี่ปุ่น
‘คุมาโนะ โคโดะ’ สถานที่ที่ได้ชื่อว่า “ดินแดนของเทพเจ้า” ที่นี่คือศาลเจ้าของภูเขาในคุมาโนะ ตั้งอยู่ใกล้กับน้ำตกที่สูงที่สุดและสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ปกติแล้วจะใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญ เช่น การชำระล้างร่างกาย หรือ บำเพ็ญตนในถ้ำใต้น้ำตก เพื่อรักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ และเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต
พาโร ทักซัง (Paro Taktsang) ประเทศภูฏาน
แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่างประเทศที่สุดท้าย คือ ทักซัง หรือ วัดถ้ำเสือ สถานที่แสวงบบุญของคนทั่วโลก วัดแห่งนี้ตั้งอยู่สูงจากระดับพื้นดินถึง 3,000 เมตรเลยทีเดียว โดยฝั่งตรงข้ามวัดมีน้ำตกที่ชาวภูฏานเชื่อกันว่าเป็น น้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้นั่นเอง
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก ผู้จัดการออนไลน์
สรุป
แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของไทย ถือเป็นแหล่งน้ำที่มีความเป็นมาเกี่ยวเนื่องกับความสำคัญทางประวัติในสมัยก่อน หรือบางแห่งก็นำมาซึ่งความเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถนำมาดื่ม ล้างหน้า และใช้ลูบศรีษะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และที่สำคัญแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของไทยจะถูกนำมาใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์ เพื่อแต่งตั้งเป็นการเป็นพระเจ้าแผ่นดินอีกด้วย
ส่วนแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่างประเทศจะเป็นสถานที่ที่ผู้คนทั่วไปสามารถใช้ได้ตามความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละแห่ง ซึ่งก็มีความเชื่อคล้าย ๆ กันว่า น้ำศักดิ์สิทธิ์ เหล่านั้นใช้สามารถขอพร อธิษฐาน และช่วยรักษาโรคได้
TODE ขอยืนยันว่า แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีอยู่จริง แถมในประเทศไทยของเราเองก็มีมากกว่าร้อยแห่ง ฉะนั้นใครที่มีความเชื่อความศรัทธาในเรื่องนี้ก็ลองเดินทางไปเยี่ยมชมกันดู และทางที่ดีหากพบแหล่งน้ำใหม่อย่าเพิ่งน้ำมาดื่ม นำมาชำระล้าง หรือปักใจเชื่อทันทีว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์เชียวล่ะ รอให้เขาพิสูจน์หาข้อเท็จจริงก่อนชัวร์สุด
บทความแนะนำอื่นๆที่น่าสนใจ