หน้าหนาวปีนี้ สายมูไปไหนดี? วันนี้แอดมินจะขอนำเสนอ ที่เที่ยวหน้าหนาวใกล้กรุงเทพ สำหรับสายมูโดยเฉพาะ หน้าหนาวถือเป็นอีกฤดูหนึ่ง ที่มีผู้คนออกไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคเหนือ เนื่องด้วยอากาศที่หนาวเย็น ผิดแปลกไปจากปกติของประเทศไทย ทำให้คนแห่ไปเที่ยวภาคเหนือกันเยอะมาก แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่า ที่เที่ยวหน้าหนาวใกล้กรุงเทพ ก็มีเหมือนกันนะ สายมูไม่ต้องน้อยใจไป เพราะแอดได้รวบรวมเอาที่เที่ยวเด็ดๆ ที่ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งการพักผ่อนหย่อนใจมาให้ทุกท่านแล้วค่ะ

ที่เที่ยวหน้าหนาวใกล้กรุงเทพ

1.สะพานมอญ – กาญจนบุรี

สะพานมอญ อยู่บริเวณเมืองชายแดน หรือ สังขละบุรี ซึ่งเป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองประมาณ 215 กิโลเมตร และห่างจากอำเภอทองผาภูมิ 74 กิโลเมตร ตัวอำเภอตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า “สามประสบ” ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลำน้ำ 3 สายไหลมาประจบกัน ได้แก่ ซองกะเลีย บิคลี่ และ รันตี เป็นที่มาของแม่น้ำแคว เมืองแห่งสายน้ำ

ชาวบ้านที่นี่ ส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาไทยกลางได้ แม้อีกฝั่งหนึ่ง จะเป็นชาวมอญก็ตาม ที่นี่ดังในเรื่องของ สะพานอุตตมานุสรณ์ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวถึง 850 เมตร สร้างเพื่อใช้ข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เชื่อมการสัญจรระหว่าง มอญ และ สังขละ ให้ถึงกัน สามารถล่องเรือชมวัฒนธรรมของไทยมอญได้ โดยเรือจะแวะตามสถานที่ต่างๆ อย่างวัดโบราณที่อยู่ใต้น้ำ หรือ วัดวาต่างๆ ตามริมแม่น้ำ ให้ทุกท่านได้ชื่นชมวัฒนธรรมเก่าแก่นี้

การเดินทาง

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว – จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จังหวัดนครปฐม ประมาณ 9 กิโลเมตร จะพบสะพานข้ามไปจังหวัดกาญจนบุรี วิ่งตามทางหลวงหมายเลข 323 ประมาณ 7 กิโลเมตร จะพบสี่แยก ให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าเมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ใช้เส้นทางอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งจะผ่านไทรโยคน้อยและไทรโยคใหญ่ (หลักกิโลเมตรที่ 125 ทางหลวง หมายเลข 323) จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวาไป สังขละบุรี ผ่านน้ำตกเกริงกะเวีย น้ำตกไดช่องถ่อง ผ่านอุทยานแห่งชาติเขื่อนเขาแหลม เมื่อไปถึงแยกด่านเจดีย์สามองค์ ให้ตรงไปอีก 7 กิโลเมตร จะเจอแยก เลี้ยซ้ายไป สะพานอุตตมานุสรณ์ อีกประมาณ 300 เมตร ก็จะพบ สะพานอุตตมานุสรณ์  หากต้องการไปเที่ยว วัดวังก์วิเวการาม จากแยกด่านเจดี่ย์สามองค์ไม่ต้องเลี้ยวขวา ให้ขับตรงไป ประมาณ 7.4 กม.จะเห็นแยกขวา วัดวังก์วิเวการาม และแยกซ้ายไป เจดีย์พุทธคยา จำลอง

2. โดยรถสาธารณะ – จากสถานีขนส่งสายใต้นั่งรถสายกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ไปยังสถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นนั่งรถสายกาญจนบุรี – ทองผาภูมิ – สังขละบุรี ไปลงที่ท่ารถ สังขละบุรี ใช้เวลาในการเดินทางจากตัวเมืองถึงสังขละบุรี ประมาณ 4 ชั่วโมง ต่อรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างไปที่ ซองกาเลีย รีสอร์ท จากนั้นสามารถใช้บริการรถของ บริษัทเอเซียไทรโยคเดินรถ จำกัด ตั้งอยู่ที่ตัวเมือง

– อัตราค่าโดยสาร รถตู้ปรับอากาศ 118 บาท รถปรับอากาศใหญ่ 151 บาท

– เวลารถ 7.30-16.30 น. รถออกทุก 1 ชั่วโมง

– ระยะเวลาเดินทาง ประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที

2.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว – เขาค้อ

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว หรือ วัดพระธาตุผาแก้ว ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เรียกกันว่า “ผาซ่อนแก้ว” นั่นก็เพราะว่ามีภูเขาสูงมากมายเรียงซ้อนกันอยู่ มีชาวบ้านหลายคนเล่าว่า เห็นลูกแก้วลอยอยู่บนท้องฟ้า แล้วหายลับไปในถ้ำบนยอดเขา ว่ากันว่า เป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา จึงถือเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์ แล้วเรียกตามๆ กันมาว่า “ผาซ่อนแก้ว”

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับพระสงฆ์และบุคคลทั่วไป สามารถมาพักกายพักใจกันได้ที่นี่ เพราะรอบๆ บริเวณมีแต่ภูเขาและต้นไม้ พร้อมด้วยอากาศที่แสนบริสุทธิ์บนยอดเขา ทีเด็ดของที่นี่ก็คือ มหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเพื่อเป็นการร่วมน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหาวโรกาสเฉลิมฉลองพระชนม์มายุ 85 พรรษา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบต่อไป สถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่ประกอบศาสนากิจ ได้แก่ การสวดมนต์ ฟังธรรม และ การปฏิบัติภาวนา

การเดินทาง

จากเพชรบูรณ์ผ่านตัวเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์มาสักระยะ จนใกล้หลักกิโลเมตรที่ 260ให้สังเกตอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมืองทางซ้ายมือ และเลี้ยว ซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 หล่มสัก-พิษณุโลก ขับต่อไปยังทางหลวงหมายเลข 12 ประมาณ 30 นาที หลัก กิโลเมตรที่ 103 

มีจุดสังเกตคือ อบต.แคมป์สนอยู่ทางขวามือ และธนาคารกสิกรไทย เยื้องขึ้นไปทาง ซ้ายมือ ตรงไปกลับรถ และจะเห็นป้าย พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว อยู่ปากซอยทางเข้า หมู่บ้านทางแดง ซึ่งอยู่ด้านข้าง อบต.แคมป์สน เลี้ยวซ้ายเข้าไป ตรงตลอดจนเห็นสะพานทางเข้าวัด เลี้ยวขวาข้ามสะพานและจอดรถ ณ บริเวณที่จัดไว้

3.องค์พระปฐมเจดีย์ – นครปฐม

โดดเด่นเป็นสง่า ใจกลางเมืองนครปฐม “องค์พระปฐมเจดีย์” พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาในแผ่นดินสุวรรณภูมิ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระโคตมพุทธเจ้า ลักษณะเป็นพระเจดีย์ใหญ่ รูประฆังคว่ำ ปากผายมหึมา โครงสร้างเป็นไม้ซุงรัดด้วยโซ่เส้นมหึมาก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ มีวิหาร 4 ทิศ กำแพงแก้ว 2 ชั้น เป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก

คนไทยหลายคนอาจจะรู้จักกันแล้ว กับงานเทศกาลยอดนิยมอย่าง เทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ที่จัดขึ้นทุกปี ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวมทั้งหมด 9 วัน 9 คืน ให้ประชาชนได้มากราบไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชมความงดงามขององค์พระปฐมเจดีย์แห่งนี้กันอย่างทั่วถึง

การเดินทาง

การเดินทางโดยรถยนต์ ไปได้ 2 เส้นทาง คือ

1. ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านอ้อมน้อย อ้อมใหญ่ สามพราน ไปจนถึงจังหวัดนครปฐม
2. ใช้ถนนบรมราชชนนี ผ่านพุทธมณฑล นครชัยศรี ไปจนถึงตัวจังหวัดนครปฐม จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาไปพระปฐมเจดีย์

4.อุทยานพิฆเนศ – นครนายก

ไปชมพระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กันที่ อุทยานพิฆเนศ จังหวัดนครนายก ขับรถจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น อย่างที่เรารู้กัน พระพิฆเนศ เป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ ผู้คนต่างนับถือว่าเป็น เทพเจ้าแห่งความรู้ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง อีกทั้งยังเป็นเทพองค์สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ สำหรับคนไทยแล้ว เรานับถือบูชาพระพิฆเนศในฐานะขององค์บรมครูแห่งศิลปะวิทยาการ

อุทยานพระพิฆเนศ แห่งนี้ เกิดจาก พระราชพิพัมน์โกศล หรือ หลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร พร้อมด้วยคณะ ที่มีความเคารพนับถือในองค์พระ ได้ดำเนินการจัดสร้าง อุทยานพระพิฆเนศ และทำรูปปูนปั้นองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขึ้น โดยองค์พระพิฆเนศนั้น มีขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร และ สูง 15 เมตร เป็นพระพิฆเนศปางนั่งประทานพร หรือเรียกว่า ปางคณบดี และ ปางไสยาสประทานพร นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการปฏิบัติธรรม

ใครมาที่นี่ ต้องห้ามพลาด มาขอพรกับ หนูมุสิกะ บริวารของพระพิฆเนศ เชื่อกันว่า ถ้าเราขอพรกับพระพิฆเนศ แล้วไปกระซิบข้างหูของหนูมุสิกะ ท่านจะนำพรของคนที่กระซิบไปบอกแก่พระพิฆเนศ และยังมี พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ ที่รวบรวมเอาองค์พระพิฆเนศจำนวน 108 ปางในสภาพสมบูรณ์รวมไว้ในที่เดียวกันอีกด้วย

การเดินทาง

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว – เริ่มต้นกันที่ถนนวิภาวดีรังสิตเข้า สู่ถนนรังสิต-นครนายก  ผ่านมศว.องครักษ์  พิพิธพันธ์วิทยาศาสตร์ ขับตรงยาวไป  60-70 กิโลเมตร จะถึงแยกให้เรา เลี้ยวซ้ายตามป้าย นครนายก ,ปราจีนบุรี เส้นทางจะผ่านตัวเมืองนครนายก ยึดป้ายทางไปน้ำตกสาริกา กับน้ำตกนางรองอุทยาน จะถึงก่อนน้ำตกสาริกา ประมาณ 16 กม. ตามเส้นทางขับไปเรื่อยๆ จะเจอแยกซ้ายเข้าวัดเขาแดง ในซอยนี้ขับเข้าไป 200 เมตร ก็จะพบกับตัวอุทยานพระพิฆเนศ
2. โดยรถสาธารณะ – มีรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัย ให้ขึ้นรถตู้ กรุงเทพ – เขื่อนขุนด่าน จากรังสิตให้ขึ้นรถตู้สายองครักษ์-เขื่อนขุนด่านที่ใต้สะพานฟิวเจอร์รังสิต รถจะผ่านน้ำตก วังตะไคร้ อุทยานพระพิฆเนศ วัดหลวงพ่อปากแดง และสิ้นสุดที่หน้าเขื่อนขุนด่าน บอกให้รถไปส่งที่วัด และให้ขอเบอร์โทร เวลากลับหรือจะนั่งรถไปต่อที่ เขื่อนขุนด่านก็ให้โทรแจ้ง

5.ชมเมืองโบราณ – อยุธยา

ไปจังหวัดเดียว ได้เที่ยววัดมากกว่า 10 ที่! ก็ต้องที่ อยุธยา นี่แหละค่ะ เมืองโบราณ เมืองประวัติศาสตร์ ที่มีวัดเก่าแก่เป็นจำนวนมาก แถมแต่ละที่ก็ห่างกันเพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้นเอง บางทีสามารถเดินไปได้ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระศรีสรรเพชญ วัดหน้าพระเม วัดพนัญเชิงราชวรวิหาร วัดใหญ่ชัยมงคล วัดไชยวัฒนาราม และอื่นๆ อีกมากมาย ยิ่งใครชอบการแต่งชุดไทย เดินตลาดน้ำ ยิ่งต้องมาที่อยุธยาเลย เรียกได้ว่า มาที่เดียว เที่ยวครบทุกรสกันเลยทีเดียว

การเดินทาง

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
2. เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ต่อมาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 32 สู่อยุธยา
3. เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือทางหลวงหมายเลข 302 (ถนนงามวงศ์วาน) แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 306 (ถนนติวานนท์) จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 3111 (ปทุมธานี-สามโคก-เสนา) และจากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่อำเภอเสนาโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3263
4. เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 306 (ถนน กรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี) จากนั้นเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 347
5. โดยรถประจำทาง

มีรถประจำทางแบบธรรมดา วิ่งระหว่างกรุงเทพมหานครจากสถานีขนส่งสายเหนือ (สถานีหมอชิต 2) และออกจากสถานีอยุธยาซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนนเรศวร รถประจำทางออกทุกๆ 20 นาทีตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. และการเดินทางใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สำหรับรถโดยสารปรับอากาศออกทุกๆ 20 นาที ตั้งแต่เวลา 5.40-19.20 น.ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง

• โดยรถไฟ

รถไฟไปอยุธยาออกจากกรุงเทพฯ ที่สถานีหัวลำโพงทุกชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 4:20 น. – 10:00 ค่าโดยสารชั้นที่ 3 เป็น 15 บาท ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง ตารางการเดินรถไฟสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : 0 2223 7010, 0 2223 7020 หรือ 1690

• โดยเรือ

ปัจจุบันการเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยทางน้ำเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศมาก เพราะจะได้ชมทัศนียภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

สรุป

หากใครยังไม่มีแพลนท่องเที่ยว สำหรับฤดูหนาวนี้ แอดมินขอแนะนำ ที่เที่ยวหน้าหนาวใกล้กรุงเทพ เลยค่ะ ไม่ต้องไปยื้อแย่งกับผู้คนที่กำลังหลั่งไหลไปเที่ยวภาคเหนือ ไม่ต้องเดินทางไกล ไม่ต้องใช้วันลาหยุดมาก วันเดย์ทริป ยังได้เลยค่ะทุกท่าน แถมที่เที่ยวแต่ละที่ แอดบอกเลยนะว่า ต้องถูกใจสายมูทุกคนแน่นอน

ก่อนจากกันไป ใครที่อยากอ่านบทความดีๆ เด็ดๆ ทั้งเรื่องความเชื่อ แรงศรัทธา ทำนายฝัน ดูดวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สูตรหวย สถิติหวย เลขเด็ด เราได้ทำการรวบรวม เรื่องดี เรื่องดัง เรื่องน่าสนใจ มาให้ทุกท่านไว้แล้วที่นี่ที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาหาเยอะแยะ มาพบกับพวกเราได้ในทุกวันที่ Ruay