เบญจเพส แปลว่า ยี่สิบห้า (25) “เบญจ” แปลว่า ห้า “เพส” แปลว่า ยี่สิบ ตามความเชื่อโบราณถือว่า เมื่ออายุครบ 25 ปีเต็ม หรือวัยเบญจเพส ชีวิตจะมีการเริ่มต้นและเปลี่ยนแปลงทั้งทางบวกและทางลบ บ้างก็เชื่อกันว่าเป็นช่วงวัยที่อาจมีเคราะห์ จึงต้องใช้ชีวิตระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ
แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ช่วงอายุ 25 เท่านั้น ที่เป็นเบญจเพส ตามความเชื่อโบราณอายุเบญจเพสนั้น เป็นช่วงอายุที่ลงท้ายด้วยเลขห้า คือ 25, 35, 45, 55, 65 โดยจะเริ่มนับจากตอนอายุ 25 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ชะตาชีวิตพลิกผันมากที่สุด
เหตุใดโบราณถือว่า “เบญจเพส” คือวัยที่ต้องมีเคราะห์ ตามไปหาคำตอบพร้อมกันที่นี่ Ruay365
เบญจเพส กับ ความเชื่อ
เบญจเพส เป็นเรื่องราวของการนับตัวเลขอายุ ซึ่งเป็น “คติของพราหมณ์” ที่แบ่งวัยของมนุษย์เราออกเป็นระยะ 3 ระยะ คือ
- อายุ 1-8 ปี นับเป็นกุมาร
- อายุ 9-16 ปี นับเป็นทารกวัย (วัยรุ่น)
- อายุ 17-25 ปี นับเป็นมาณพ (วัยหนุ่ม)
เมื่อได้ใช้ชีวิตครบรอบมาจนถึงอายุ 25ปี ตามคำภีร์พฤติศาตร์เรียก “ต้องเบญจเพส” หมายถึงการเข้าถึงโชคและเคราะห์อันแรงกล้า แปลว่าไม่ได้ซวยเสมอไป แต่อาจเป็นเรื่องดี ๆ ได้ด้วย
โดยในสมัยโบราณ โชคและเคราะห์ในวัยเบญจเพสจะเกิดกับผู้ชายเท่านั้น แต่ปัจจุบันนั้นเชื่อว่าเกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิง และอาจเพราะเป็นวัยรอยต่อของชีวิต ที่เปลี่ยนผ่านความเป็นวัยรุ่นเข้าสู่วัยทำงาน เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงของชีวิตในด้านต่าง ๆ คนโบราณจึงมักจะนึกถึงเรื่องร้าย ๆ ไว้ก่อนนั่นเอง
เปรียบเสมือนกุศโลบายที่ไว้คอยตักเตือน ไม่ให้ประมาท ใจร้อน และตักเตือนให้ใช้ชีวิตระมัดระวัง มิเช่นนั้นอาจเกิดเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ การเสียชีวิต เจ็บป่วย ขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นต้น
ส่วนใน “ด้านโหราศาสตร์” กับเรื่องของเบญจเพศนั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องราวของการจัดระบบธาตุรอบใหม่ จึงทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต ซึ่งมีผลต่อร่างกาย และจิตใจ เป็นไปได้ทั้งทางที่ดี และไม่ดี
การจัดระบบธาตุรอบใหม่ กล่าวคือ เมื่อคนเราเกิดมา ในรอบ 12 ปีแรก หลังจากการนับวงรอบครบ 12 ปี จะขึ้นรอบธาตุต่อไป คือ อายุ 13 ปี เป็นช่วงระบบธาตุจะมีการจัดตัว บุคคลวัยนี้ยังอยู่ในการปกครองของพ่อแม่ ชีวิตเลยยังไม่มีปัญหามากนัก
ส่วนวงรอบที่สอง หลังจากการนับครบรอบ 24 ปี จะขึ้นรอบธาตุต่อไป คือ อายุ 25 ปี เป็นช่วงพลังธาตุป่วน และแรงที่สุด เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในชีวิต มีผลต่อชีวิต ร่างกาย และจิตใจ อาจทำให้มีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้น มีความเสี่ยงในชีวิตเพิ่มขึ้น คนโบราณจึงไม่อยากให้ใครทำอะไรในช่วงเบญจเพสนี้ เพราะกำลังดวงไม่ดี เอาแน่เอานอนไม่ได้
ซึ่งธาตุมีการจัดระบบเป็นระยะ ๆ แล้วจะมาจบ ตอนอายุ 61 ปี เพราะเป็นการครบรอบพฤหัสจักร ที่จะขึ้นรอบธาตุดาวฤกษ์ใหม่อีกครั้ง ผู้คนจึงถือโอกาสจัดแซยิด ตอนอายุเต็ม 60 ปี ขึ้น อายุ 61 ปี เพื่อขับไล่สิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้ไปพร้อมกับความตายที่ผ่านไปแล้ว แล้วถือเป็นเคล็ดการเกิดใหม่อีกครั้ง ที่จะมีสิ่งดี ๆ เข้ามารับช่วงต่อ
ส่วนจะเป็นโชคหรือเป็นเคราะห์ก็ต้องดูว่าลงล็อกใดใน เพส 5 อันได้แก่ เทวะ มนุษย์ เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย หากดวงตกเทวะก็ได้ลาภยศ หากดวงตกมนุษย์ก็ปานกลางไม่ดีไม่ร้าย หากดวงตกเดรัจฉานก็ป่วยหนัก หากดวงตกเปรตก็ถึงตาย หากดวงตกอสุรกายก็อาจพิกลพิการ เป็นต้น
ซึ่งเรื่องร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นและต้องระมัดระวัง สำหรับบุคคลที่ย่างเข้าวัยเบญจเพส หรืออายุ 25 ปีนั้น สามารถแบ่งออกเป็นตามวันเกิดของแต่ละคนได้ ดังนี้
- คนเกิดวันอาทิตย์ : ระวังจะเกิดคดีความ จะถูกใส่ร้ายป้ายสี เสียทรัพย์สิน เสียชื่อเสียง สุขภาพเสื่อมโทรมลง
- คนเกิดวันจันทร์ : จะได้พบคู่ที่ถูกใจ แต่ระมัดระวังความวุ่นวายเพราะเรื่องเพศตรงข้าม
- คนเกิดวันอังคาร : ระวังจะเกิดการเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นต้องผ่าตัด
- คนเกิดวันพุธ (กลางวันและกลางคืน) : มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย ถิ่นที่อยู่ ต้องตกระกำลำบากเหน็ดเหนื่อย
- คนเกิดวันพฤหัสบดี : มีการเดินทางไกลจากถิ่นที่อยู่หรือมีการโยกย้ายไปอยู่แดนไกล
- คนเกิดวันศุกร์ : ระวังมีคดีความ เกิดภาวะฉุกเฉินเรื่องการเงิน เป็นหนี้
- คนเกิดวันเสาร์ : ต้องพลัดพรากจากถิ่นที่อยู่ไปใช้ชีวิต อยู่แดนไกล
เบญจเพส กับ วิธีแก้เคล็ดเบญจเพส พลิกชะตาร้ายให้กลายเป็นดี
ถวายสิ่งของที่เป็นคู่ให้กับที่วัด
เช่น เทียนคู่ แจกันคู่ ธงคู่ หมอนคู่ อะไรก็ได้ที่เป็นคู่ ตามความเชื่อและตามความคิดเหมือนกับว่าเป็นคู่กับคนอื่น และคนอื่นก็จะได้นำไปใช้เป็นคู่ ๆ และก็จะเป็นสิ่งที่ดีกับเรา
ถวายพวงมาลัยดอกรัก หรือดอกมะลิ สำหรับการไหว้พระเป็นประจำ
เชื่อว่าเป็นดอกไม้มงคลที่พบแต่ความสุขสดชื่น เป็นสิริมงคลทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์
ปลูกต้นรัก ลงดินในบริเวณวัด แต่ห้ามปลูกในบ้าน
ตามความเชื่อโบราณเชื่อว่า ต้นรักจะทำให้ความรักยุ่งยากขึ้น และกลายเป็นคนมากรัก
รักษาศีลพรหมวิหารสี่
คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต่อผู้อื่น ยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี เมื่อเห็นผู้อื่นได้ทุกข์ก็ไม่ซ้ำเติม
เน้นทำบุญสะเดาะเคราะห์ เพื่อที่จะแก้ดวง แก้ชง ตามวัดต่าง ๆ
เช่น วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (วัดนาจา) วัดทิพยวารีวิหาร (วัดกัมโล่วยี่) หรือวัดโพธิ์แมนคุณาราม (วัดโพวมิ้งปออึงยี่) เป็นต้น
นอกจากนี้ คุณยังเลือกทำบุญได้ด้วยการปล่อยสัตว์ตามวันเกิด
- คนเกิดวันอาทิตย์ : ให้ปล่อยปลาไหล
- คนเกิดวันจันทร์ : ให้ปล่อยนก
- คนเกิดวันอังคาร : ให้ปล่อยหอยขม
- คนเกิดวันพุธ : ให้ปล่อยปลาไหล
- คนเกิดวันพฤหัส : ให้ปล่อยเต่า
- คนเกิดวันศุกร์ : ให้ปล่อยปลาหมอ
- คนเกิดวันเสาร์ : ให้ปล่อยปลาไหล
จำนวนสัตว์ที่ปล่อย ถ้ามีกำลังทรัพย์ ก็ให้มากกว่าอายุ สำหรับคนที่มีรายได้น้อยไม่สะดวกเรื่องเงิน ให้ถือเลขอายุลงท้ายเลข คู่ ให้ปล่อยสัตว์จำนวนเลขคี่ อายุลงท้ายเลขคี่ ให้ปล่อยสัตว์จำนวนเลขคู่ เช่น อายุ 24 ปล่อยสัตว์จำนวน เลขคี่ 1 3 5 7 9 และอายุ 25 ปล่อยสัตว์จำนวน เลขคู่ 2 4 6 8 10 12 14
คำอธิษฐานปล่อยสัตว์ แก้เคล็ดเบญจเพส
ข้าพเจ้าชื่อ …………. สกุล ………. เกิดวัน เดือน ปี ………. อายุ ……. ได้ปล่อยสัตว์……จำนวน ….. ตัว
ปล่อยให้เป็นที่พึ่ง ขอให้นำความสุขและโชคลาภมาให้ข้าพเจ้า… ตัวที่นำให้กับศัตรูและเจ้ากรรมนายเวร จงนำเอาสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรคภัย สรรพเคราะห์ เสนียดจัญไรออกไปจากข้าพเจ้า นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป…. ขอให้พระแม่คงคง พระยานาคราช เจ้าที่เจ้าทาง จงเป็นสักขีพยานรับทราบเจตนาของข้าพเจ้า และคุ้มครองชีวิตสัตว์ให้ปลอดภัยจนสิ้นอายุขัย ด้วยอำนาจของกุศลผลบุญนี้ จงสะเดาะห์เคราะห์ร้ายของข้าพเจ้า ให้กลับกลายเป็นดี มีความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จสมดั่งใจปรารถนา มีชีวิตที่สุข สดชื่น สดใส ตั้งแต่ ณ บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ
สรุป
ช่วงอายุ 25 ปี หรือวัยเบญจเพศ เป็นช่วงวัยเปลี่ยนผ่านและโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ จึงอาจมีเหตุการณ์ใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต ที่สามารถเป็นได้ทั้งเรื่องดี และไม่ดี ซึ่งวัยเบญจเพส ใครว่าซวยอย่างเดียว แต่อาจเปลี่ยนเป็นรวยแบบไม่ทันตั้งตัวลองใช้เลขนำโชคประจำวันเกิด เลยก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง บนความไม่ประมาทของแต่ละบุคคล
ดังคำที่ พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) ท่านได้ออกมาเทศนาให้ฟังว่า
“ เบญจเพส ก็หมายความว่า ยี่สิบห้า อายุ 25 มันอันตราย อันตรายตรงที่ว่าเราคะนองนั่นเอง ไม่ต้องถึง 25 หรอก 18 นี่คะนองแล้ว เด็กวัยทีนเอจนี่คะนองแล้ว 19-25 มันคะนองทั้งนั้น โน่น 35 ถึงจะเบาหน่อย พอรู้เรื่องชีวิตรู้จักค่าของชีวิตไม่ค่อยจะเสี่ยงภัยมากเกินไป โตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ 25 มันกำลังคะนองทำอะไรมักจะรวดเร็วโลดโผน มันจึงเกิดทุกข์เกิดโทษกับคนอายุขนาดนั้นมาก เพราะความคะนองนั่นเอง ถ้าหากว่าเรารู้ตัวว่าอุบัติเหตุมันเกิด เพราะความคะนองเกิดเพราะความประมาท เราก็อย่าประมาท ขับรถก็อย่านึกว่ามีรถของเราคันเดียวก็เท่านั้น ”
ที่มา : แสงสว่างแห่งชีวิตพระธรรมโกศาจารย์(ปัญญานันทภิกขุ)
ฉะนั้นแล้วไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด ไม่เฉพาะแต่วัยเบญจเพสเท่านั้น หากคุณมีสติ ไม่ประมาทต่อการใช้ชีวิต คุณก็จะก้าวผ่านทุกช่วงวัยของชีวิตไปได้อย่างมีความสุข และปลอดภัย
บทความที่เกี่ยวข้อง
