ใกล้จะจบปีแล้ว แต่รู้สึกว่าชีวิตไม่สงบเอาซ่ะเลย มา ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด กรุงเทพ กันดีกว่า ปกติเวลาเราไปทำบุญอาจจะนั่งรถไปไหว้กัน แต่แอดมินขอเสนอการ ล่องเรือไหว้พระ ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว ยังได้สัมผัสถึงชีวิตแบบ Slow life ด้วย การอยู่ในเมืองทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา เจอรถติดไปก็เซ็งแล้ว ลองเปลี่ยนมานั่งเรือ ชมวิวสองฝั่งแบบชิวๆ น่าจะดีกว่านะคะ เพราะนอกจากจะได้บุญแล้ว ยังได้ผ่อนคลายอีกด้วย

สำหรับการนั่งเรือไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร, วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, วัดยานนาวา, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, วัดอมรินทรารามวรวิหาร, วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร และ วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร หรือใครที่อยากติดตามวัดที่สามารถเดินทางไปได้บนทางบก ก็สามารถติดตามพวกเรา ชาว Ruay365 ได้ที่นี่เลยจ้า

วัดที่ 1 วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

เปิดตัวกันที่วัดแรกกับ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดใหญ่ที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับสายมูแล้ว น่าจะรู้จักกับวัดแห่งนี้เป็นอย่างดี เพราะเป็นวัดของ หลวงพ่อโต หรือ “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือเรียกตามแบบจีนว่า “หลวงพ่อซำปอกง” โดยตัววัดมีการออกแบบผสมผสานระหว่างศิลปะไทยและศิลปะจีน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร)

นอกจากหลวงพ่อโตที่ดังมากของที่นี่แล้ว เมื่อเข้าไปในตัววัด จะได้พบกับพระรูปปั้นปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ซึ่งจะมีแค่ที่นี่ที่ ที่วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดอุภัยภาติการาม จ.ฉะเชิงเทรา 3 วัดเท่านั้นในประเทศไทย ใครที่มากราบไหว้พระรูปปั้นปางวิชัยมาร มีความเชื่อว่าจะแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งปวง ส่วนวัดแห่งนี้ดังในเรื่องการขอพรเกี่ยวกับการเดินทาง ดังคติที่ว่า “เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี” ตามชื่อวัดนั่นเอง

ที่ตั้ง : 371 ถนนอรุณอัมรินทร์ตัดใหม่ (ถนนเทศบาลสาย3) แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.00 น.

วัดที่ 2 วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง

วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดเก่าแก่โบราณ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 อีกด้วย เดิมทีเรียกว่า “วัดมะกอกนอก” มีเอกลักษณ์เด่นอยู่ที่พระปรางค์สีขาว ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำวัดเลยก็ว่าได้ ตัววัดประดับไปด้วยด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากจีน เป็นที่นิยมทั้งสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยพระปรางค์วัดอรุณ ถือว่าเป็นพระปรางค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความเชื่อกันว่า หากใครได้มากราบไหว้พระที่วัดอรุณ “ชีวิตจะรุ่งโรจน์ ทุกคืนวัน” เหมือนกับชื่อวัด

ที่ตั้ง : 158 ถนน วังเดิม แขวง วัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.

วัดที่ 3 วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง เดิมทีมีชื่อเรียกว่า “วัดบางหว้าใหญ่” เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับท่าเรือวังหลัง วัดแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระมหาเถระรูปสำคัญที่คนไทยรู้จักกันดี จึงทำให้วัดระฆังมีอีกชื่อที่เป็นที่รู้จักว่า “วัดหลวงพ่อโต” พระคาถาชินบัญชรที่เราสวดกันอยู่ทุกวันก็เช่นกัน เป็นบทสวดที่แต่งขึ้นโดยหลวงพ่อโต

วัดระฆัง เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชอบทำบุญเกี่ยวกับการปล่อยนกปล่อยปลาเป็นอย่างมาก มีความเชื่อที่ว่า มาทำบุญที่วัดระฆัง จะทำให้ “มีชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ” ซึ่งก็เหมือนกับชื่อวัดระฆัง ที่เหมือนตีระฆังไปจะดังก้องกังวานเหมือนกับระฆัง

ที่ตั้ง : 250 ถนน อรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.

วัดที่ 4 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

โด่งดังไปทั่วทั้งโลก ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกับ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่ทุกท่านเรียกกันว่า “วัดพระแก้ว” นั่นเอง สัญลักษณ์แห่งศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยอันโดดเด่นใจกลางเมืองกรุง  ที่สำคัญยังเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ที่นำมาจากกรุงเวียงจันทร์ และยังเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส

สำหรับทริปการไหว้พระ 9 วัด ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือหรือเดินทางทางถนนก็ตาม จะต้องไม่ขาดวัดพระแก้วแน่นอน เพราะถือว่าเป็นวัดสำคัญที่สวยงามอย่างมากของกรุงเทพฯ คนไทยเชื่อกันว่า หากมากราบไหว้พระที่วัดพระแก้ว ก็ “เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย” เหมือนกับพระแก้วมรกต แนะนำว่าให้มาช่วงเช้า เพราะสถานที่แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวมาแวะเวียนเป็นจำนวนมากอยู่เสมอ และต้องอย่าลืมพกบัตรประชาชนไปด้วย

ที่ตั้ง : ถนน หน้าพระลาน แขวง พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.

วัดที่ 5 วัดยานนาวา

วัดยานนาวา มีชื่อเดิมคือ “วัดคอกควาย” เนื่องจากมีชาวทวยมาลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ชาวทวายมักจะนำเอาโคกระบือที่ตนเลี้ยงไว้มาทำการแลกเปลี่ยนสินค้ากัน ตัววัดตั้งอยู่ติดกับ BTS สะพานตากสิน ต่อมารัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ และสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบเรือสำเภาซึ่งกำลังจะหมดไปจากเมืองไทย จึงได้เปลี่ยนชื่อจากวัดคอกกระบือเป็น “วัดยานนาวา” และมีสัญลักษณ์เป็น “เรือสำเภาขนาดใหญ่”

วัดแห่งนี้ ดังในเรื่องของการขอพรเกี่ยวกับหน้าที่การงาน การค้าการขาย การเงิน เพราะเดิมทีวัดแห่งนี้ก็เป็นสถานที่ในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือทำการค้าขายเช่นกัน ตามดังคติประจำวัดที่ว่า “การค้าขาย การทูต เจริญรุ่งเรือง” ใครอยากเฮงๆๆ มีเงินทองไหลมาเทมาตลอดทั้งปี ก็ต้องมาที่วัดยานนาวานี่แหละค่ะ

ที่ตั้ง : 40 ถนน เจริญกรุง แขวง ยานนาวา เขต สาทร กรุงเทพมหานคร 10120

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น.

วัดที่ 6 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ ถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 ได้มีการขึ้นทะเบียนจารึกวัดโพธิ์จำนวน 1,440 ชิ้น เป็นมรดกความทรงจำโลก ในทะเบียนนานาชาติวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวน 99 องค์ พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สำหรับวัดโพธิ์ เรามักจะรู้จักกันในชื่อของ “วัดโพธิ์ ท่าเตียน” คติประจำวัดโพธิ์ก็คือ “เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข” เหมือนอยู่ใต้ร่มโพธิ์ร่มไทรนั่นเอง สถานที่ที่แนะนำสำหรับวัดโพธิ์ ต้องไปให้ได้เลยก็คือ “มหาเจดีย์สี่รัชกาล” เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความวิจิตรงดงามตระการตาเป็นอย่างมาก และความพิเศษของวัดนี้อีกอย่างหนึ่งเลยก็คือ วิหารพระพุทธไสยาส ที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีความสวยงามและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย

ที่ตั้ง : 2 ถนน สนามไชย แขวง พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.

วัดที่ 7 วัดอมรินทรารามวรวิหาร

มาต่อกันที่ วัดอมรินทรารามวรวิหาร หรือชื่อเดิมที่เรียกว่า “วัดบางว้าน้อย” ตั้งอยู่ติดกับโรงพยาบาลศิริราช เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่เคียงคู่มากับวัดระฆัง จุดที่น่าสนใจของวัดแห่งนี้ก็คือ “วิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อย” ที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” พระประธานปูนปั้นศิลปะแบบสุโขทัยจากครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา แต่หลังจากที่มีระเบิดลง ทุกอย่างภายในวัดก็ได้รับความเสียหายทั้งหมด เหลือไว้เพียงวิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อยและมณฑปพระพุทธบาทจำลอง จึงทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโบสถ์น้อยขึ้นชื่อมาตั้งแต่นั้นมา

วัดอมรินทราราม เป็นวัดที่ผู้คนนิยมมากราบสักการะขอพรจากหลวงพ่อ ในเรื่องของการขอให้ทำอะไรก็ปลอดภัยจากอันตรายทุกอย่าง ดังคติประจำวัดที่ว่า “พระอินทร์ประทานพรให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง” เหมือนกับแรงระเบิดที่ไม่สามารถทำให้หลวงพ่อร้าวหรือเสียหายได้เลย

ที่ตั้ง : ริมถนนสนามไชยและถนนมหาราช ติดกับพระบรมมหาราชวัง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.

วัดที่ 8 วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร

แค่ชื่อ ก็บอกทุกอย่างแล้ว กับ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร วัดดังที่ตั้งอยู่บนถนนจักรพงษ์ ใกล้ถนนข้าวสาร บางลำพู แขวงชนะสงคราม เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่า “วัดกลางนา” เนื่องจากมีทุ่งนาล้อมรอบ

เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ ทรงย้ายราชธานีจากฝั่งกรุงธนบุรีมาฝั่งพระนคร และทรงสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้น ในช่วงนั้นยังมีศึกสงครามอยู่ พระองค์โปรดฯ ให้สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นแม่ทัพคนสำคัญ รวบรวมชาวมอญมาเป็นกองกำลังในการรบกับข้าศึก โดยให้ชาวมอญตั้งถิ่นฐานใกล้บริเวณวัดกลางนา และให้พระสงฆ์มอญมาอยู่จำพรรษาที่วัดนี้ ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้เป็นภาษามอญว่า “วัดตองปุ”

สำหรับใครที่จะมากราบไหว้พระที่วัดแห่งนี้ วัดมีความดังในเรื่องของการเอาชนะอุปสรรคทุกอย่าง ไม่ว่าทำอะไร ก็จะประสบความสำเร็จเสมอ ดังคติ “มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง”  เหมือนกับชื่อวัด

ที่ตั้ง : 566 ถนน อรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 8.00 น. – 17.00 น.

วัดที่ 9 วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร

ส่งท้ายกันด้วย วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เดิมทีมีชื่อว่า “วัดทอง” โดยวัดตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อยฝั่งตะวันตก เป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงเป็นผู้สถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม และพระราชทานนามว่า “วัดสุวรรณาราม”

วัดสุวรรณาราม เคยปรากฏในพระราชพงศาวดารสมัยกรุงธนบุรีว่า เมื่อตอนที่พม่ายกกองทัพมาตีเมืองพิษณุโลก พระเจ้าตากสินมหาราชจะยกกองทัพไปช่วย จึงโปรดให้ถามเชลยศึกพม่าที่จับมาได้จากค่ายบางนางแก้วว่าจะสมัครใจไปช่วยรบพม่าด้วยหรือไม่ แต่เชลยศึกพม่าตอบปฏิเสธ พระเจ้าตากสินจึงจับเชลยศึกทั้งหมดประหารใกล้ๆ วัด จึงทำให้มีความเชื่อว่า ตอนกลางคืนจะมีม้ามาวิ่งอยู่รอบโบสถ์ ใครที่มาบนขออะไรที่วัดมักจะประสบความสำเร็จ วิธีแก้บนก็คือ ให้มาวิ่งม้าก้านกล้วยรอบโบสถ์

ที่ตั้ง : ซอย จรัญสนิทวงศ์ 32 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 8.00 น. – 17.00 น.

สรุป

ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด กรุงเทพ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับหลายคนที่ต้องไปพักผ่อนหย่อนใจแบบ One day trip ต้องการใช้ชีวิตแบบ Slow life ไม่ต้องเครียดกับปัญหารถติด และยังได้ทำบุญไปในระหว่างทริปอีกด้วย การล่องเรือไหว้พระ 9 วัดบนแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพฯ จะช่วยให้ทุกท่านได้ผ่อนคลายไปกับวันหยุดอย่างแท้จริง ยิ่งสายมูทั้งหลายที่ชื่นชอบการไหว้พระ ต้องถูกใจกับวัดที่แอดมินเสนอมาอย่างแน่นอน เพราะแต่ละวัดนั้น ดังอย่าบอกใครเชียวล่ะ

ก่อนจากกันไป ใครที่อยากอ่านบทความดีๆ เด็ดๆ ทั้งเรื่องความเชื่อ แรงศรัทธา ทำนายฝัน ดูดวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สูตรหวย สถิติหวย เลขเด็ด เราได้ทำการรวบรวม เรื่องดี เรื่องดัง เรื่องน่าสนใจ มาให้ทุกท่านไว้แล้วที่นี่ที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาหาเยอะแยะ มาพบกับพวกเราได้ในทุกวันที่ Ruay